ขอร่วมสร้างสังคมเคารพสิทธิ-เสรีภาพ

09 ธ.ค. 2562 | 10:42 น.

“ปธ.กสม.”ส่งสารวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธ.ค. ขอสังคมช่วยดูแลคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน –ร่วมสร้างสรรค์สังคมเคารพสิทธิและเสรีภาพ

 

วันนี้ ( 9 ธันวาคม 2562) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีสารเนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2562  โดยสารกล่าวถึงเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2  ที่เกิดการประหัตประหารระหว่างมวลมนุษยชาติอย่างโหดร้าย กว้างขวาง ทำให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนว่ามีส่วนสำคัญต่อการธำรงสันติภาพของโลก และเมื่อมีการรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2491 จึงได้ถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล

 

นอกจากนั้น ปีนี้ยังมีความสำคัญพิเศษเนื่องจากครบรอบ 30 ปี ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child : CRC) องค์การสหประชาชาติจึงได้ถือโอกาสพิเศษนี้รณรงค์ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่จะมีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมเกิดการเคารพสิทธิและเสรีภาพ ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนคนรุ่นใหม่ ยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน” (Youth Standing up  For Human Rights)

 

 

โดยที่ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและมีพันธกรณีที่จะต้องประกันสิทธิและเสรีภาพของเด็กทุกคนในประเทศให้อยู่รอดและเติบโตเต็มตามศักยภาพ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จึงได้เสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะนโยบายที่สำคัญต่ออรัฐบาลในการคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชนหลายประการ อาทิ การแก้ไขระเบียบห้ามเปิดเผยประวัติอาชญากรรมของเด็กและเยาวชนเพื่อให้เด็กที่ก้าวพลาดได้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคม  การขอให้นำเด็กที่ติดตามครอบครัวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายออกจากสถานกักตัวและให้ได้รับการดูแลตามสิทธิขั้นพื้นฐาน การเคารพสิทธิของเด็กในการแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามหลักความเชื่อทางศาสนา การสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยศูนย์การเรียนของชุมชน และการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำคู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ตั้งแต่ชั้นปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ

 

ทั้งนี้ ในโอกาสสำคัญดังกล่าว นายวัสได้กล่าวเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน และขอให้สังคมร่วมกันสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติ ได้เติบโตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีภูมิคุ้มกัน สามารถพัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพ ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต และมีส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป