JAS-DTAC ลุยเน็ตไม่จำกัด เสริมแกร่ง
JAS จับมือ DTAC ลงนามให้บริการลูกค้าในโครงข่าย Fixed Broadband ของ TTTBB และโทรศัพท์มือถือของดีแทค เชื่อมต่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แบบไม่มีขีดจำกัด โบรกฯชี้ช่วยเติมเต็มบริการที่แต่ละฝ่ายยังขาดอยู่ให้ครบวงจร
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (JAS) และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ได้แจ้งต่อตลท.ว่า บริษัทย่อยของทั้ง 2 บริษัท ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการให้บริการลูกค้า ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารปรับลดลงพอสมควร โดยวันที่ 3 ธันวาคม ราคาหุ้น JAS ปิดที่ 5.35 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าซื้อขาย 655.40 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้น DTAC ปิดที่ 53.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 2.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 650.14 ล้านบาท
สำหรับบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) บริษัทย่อยของ JAS ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) “Business Cooperation Framework” กับบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (ดีแทค) บริษัทย่อยของ DTAC เพื่อร่วมเป็น Strategic Partner ให้บริการลูกค้าบนโครงข่าย Fixed Broadband ของ TTTBB และโทรศัพท์มือถือของดีแทคให้สามารถเชื่อมต่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แบบไม่มีขีดจำกัด การร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นจุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำธุรกิจต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกันครั้งนี้ จะเป็นการทำโปรโมชันร่วมกันทั้งอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ โทรศัพท์มือถือ Wi-Fi บริการ OTT และ Content ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการที่ดีในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งลูกค้าจะได้รับความสะดวกที่มากขึ้นจากการใช้บริการผ่านช่องการให้บริการจากทั้ง 2 บริษัท อีกทั้งจะเป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ๆ ช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต เป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายบริการที่ร่วมมือกันไปยังฐานลูกค้าใหม่อีกด้วย
นางสาวญานินท์ อภิชาติสกุลวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พิลลิป (ประเทศไทย)ฯ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มนํ้าหนักหุ้น DTAC เป็นแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 2563 ที่ 63.00 บาท หลังจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามาก รวมถึงมีมุมมองบวกต่อการเป็นพันธมิตรกับ JAS ซึ่งคาดจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ DTAC แต่เนื่องด้วยการแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือดยังคงเป็นปัจจัย หลักกดดันรายได้ สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขยายเครือข่ายและค่าตัดจำหน่าย ทำให้กำไรปกติปี 2563 คาดจะลด 5.1% เมื่อเทียบกับปี 2562 อยู่ที่ 6,234 ล้านบาท
ด้านบล.เอเซียพลัสฯ ระบุว่า การร่วมมือดังกล่าว ถือเป็นบวกต่อธุรกิจ DTAC และ JAS เนื่องจากช่วยเติมเต็มบริการที่แต่ละฝ่ายยังขาดอยู่ให้มีความครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เป็นส่วนหนึ่งให้ DTAC ประสบปัญหาเสียลูกค้า และ JAS ต้องใช้กลยุทธ์ราคาตํ่า เพื่อรั้งลูกค้า แต่การต่อยอดในอนาคตเชื่อว่า JAS จะมีโอกาสมากกว่า DTAC เพราะมีโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้า 20.4 ล้านราย ส่วน DTAC จะมีโอกาสขายพ่วงให้กับลูกค้า JAS ที่มีน้อยกว่า 3 ล้านราย และพ่วงบริการ JAS รุกลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น ลูกค้าองค์กร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาราคาหุ้น JAS เคยปรับขึ้นสูงสุดที่ 7.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือ 7.63% เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 จากราคาปิดวันที่ 1 กรกฎาคม ปิดที่ 7.20 บาท โดยมีประเด็นข่าวลือว่าจะเป็นดีลควบรวมกับโครงข่ายโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นค่ายโทรศัพท์แห่งหนึ่ง คาดว่าจะเป็นการควบรวมเพื่อดำเนินการร่วมกัน แต่หลังจากนั้น JAS ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,529 วันที่ 8-11 ธันวาคม 2562
