ฝรั่งเศสนัด ‘หยุดประเทศ’ ชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ต้านปฏิรูประบบเงินบำนาญ

05 ธ.ค. 2562 | 08:43 น.

 

นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับการนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งมาเมื่อเดือนพ.ค. 2560 และถ้าหากการเรียกระดมพลังของบรรดาสหภาพแรงงานทั่วประเทศเป็นไปตามที่คาดหมาย การประท้วงครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของประวัติศาสตร์ประเทศฝรั่งเศส เป้าหมายเพื่อแสดงพลังคัดค้านแผนการปฏิรูประบบเงินบำนาญที่จะส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานเกษียณอายุช้าลง และถูกตัดเงินบำนาญให้มีจำนวนลดลง

ฝรั่งเศสนัด ‘หยุดประเทศ’ ชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ต้านปฏิรูประบบเงินบำนาญ

การนัดหมายหยุดงานประท้วงของสหภาพแรงงานเริ่มขึ้นในวันนี้ (5 ธ.ค.) และไม่ได้กำหนดเวลาสิ้นสุด พวกเขาต้องการร่วมแสดงพลังและระบายออกซึ่งความไม่พอใจที่มีต่อนโยบายของประธานาธิบดีมาครง ที่ต้องการปฏิรูประบบเงินบำนาญให้มีการขยายเวลาเกษียณอายุการทำงานออกไป และลดเงินบำนาญลง ก่อนหน้านี้ ฝรั่งเศสใช้ระบบเงินบำนาญหลายรูปแบบ แต่ในยุคของนายมาครง เขาต้องการใช้ระบบเงินบำนาญที่อิงคะแนนสะสมตามผลงาน ซึ่งเป็นระบบบำนาญตามหลักสากล แต่การเปลี่ยนแปลงที่เขานำเสนอก่อให้เกิดเสียงคัดค้านทั่วประเทศ  
 

ระบบขนส่งเป็นอัมพาต 

สหภาพแรงงานและกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมการประท้วงนั้น ประกอบด้วย พนักงาน-เจ้าหน้าที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่ในระบบขนส่งคมนาคม รถโดยสาร รถไฟใต้ดิน-บนดิน สนามบิน  รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานรัฐ อัยการ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล-สถานพยาบาล ฯลฯ ทำให้เป็นการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่สุด และมีผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งในเมืองหลวงมากที่สุด

ฝรั่งเศสนัด ‘หยุดประเทศ’ ชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ต้านปฏิรูประบบเงินบำนาญ

คาดการณ์ว่าระบบขนส่งมวลชนทางรางของฝรั่งเศสจะเป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิงจากการนัดหยุดงานประท้วงครั้งนี้ เนื่องจากคนขับรถไฟ 82% จะหยุดงานและได้มีการประกาศยกเลิกการเดินทางไปแล้ว 90% ของเที่ยวรถไฟทั้งหมด นอกจากนี้ ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส จะไม่มีรถไฟใต้ดินวิ่งแน่นอนแล้ว 11 สายจากทั้งหมด 16 สาย เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากพากันหันไปใช้บริการจักรยานและสกู๊ตเตอร์ให้เช่า เพื่อใช้เดินทางแทนระบบขนส่งสาธารณะที่หยุดให้บริการ

 

ประมาณครึ่งหนึ่งของเที่ยวรถไฟยูโรสตาร์ที่วิ่งระหว่างกรุงปารีสและลอนดอน ถูกยกเลิกแล้วเช่นกัน

 

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ดูแย่ลงไปและสร้างความหวั่นวิตกมากขึ้นคือ บรรดาร้านค้าในกรุงปารีสได้รับคำแนะนำให้ปิดร้าน เพื่อป้องกันผลกระทบจากเหตุจลาจลที่อาจเกิดขึ้นได้

 

สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า มีการนัด ‘ปิดทำการ’ เช่น ปิดโรงเรียน ปิดสถานีตำรวจ เพื่อแสดงออกใน “เชิงสัญลักษณ์” แสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับบรรดาผู้ใช้แรงงานที่นัดหยุดงานกันทั่วประเทศเพื่อคัดค้านสิ่งที่นายมาครงเรียกว่า ‘การปฏิรูปฝรั่งเศส’ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาหาเสียงเอาไว้ ทั้งนี้ ระบบเงินบำนาญเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะต้องถูกปฏิรูปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเป็นระบบที่ยั่งยืน เป้าหมายคือเพื่อลดความซับซ้อนจากเดิมที่มีอยู่ถึง 42 ระบบให้เหลือเพียงระบบเดียว แต่ผลของการเปลี่ยนแปลงจะทำให้คนทำงานต้องเกษียณอายุช้าลง (ตามกฎหมายในระบบเดิม อายุเกษียณของพนักงานในภาครัฐและเอกชน คือ 62 ปี) และจำนวนเงินบำนาญก็ถูกตัดทอนลงด้วย
 

เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับการนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ดำรงตำแหน่งมา

ปัจจุบัน คะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีมาครงลดลงมาอยู่ที่ 30%  แม้ว่าคนจำนวนมากจะเห็นด้วยว่าควรมีการปฏิรูประบบเงินบำนาญ (การสำรวจของ Ifop ล่าสุดชี้ว่า 76% เห็นว่าควรมีการปฏิรูป) แต่พวกเขาจำนวนถึง 64% ระบุว่า ไม่เชื่อใจว่าประธานาธิบดีที่มีจุดยืนเข้าข้างนายทุนเจ้าของธุรกิจ จะสามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ

 

การบิน-การท่องเที่ยวระทึก

นักวิเคราะห์ระบุว่าการนัดชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลในเรื่องการปฏิรูประบบเงินบำนาญครั้งนี้เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะรายละเอียดของการปฏิรูปนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาทั้งหมด อีกทั้งรัฐบาลเองก็ยังคงอยู่ในกระบวนการปรึกษาหารือกับภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง และรัฐสภาก็ยังไม่มีกำหนดนำข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้าพิจารณาจนกว่าจะถึงวาระเปิดสภาในปีหน้า (2563) แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเหตุใดประชาชนจำนวนมากถึงไม่พอใจนโยบายดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ก็มีการประท้วงต่อต้านนโยบายของรัฐบาลฝรั่งเศสมาเป็นระลอกๆ เนื่องจากพวกเขาเห็นว่าชีวิตความเป็นอยู่มีความลำบากมากขึ้น และสวัสดิการก็ถดถอยลง การสำรวจล่าสุดในเดือนที่ผ่านมา พบว่า ชาวฝรั่งเศส 89% ที่ร่วมแสดงความเห็น มองว่าประเทศกำลังเผชิญ ‘วิกฤติทางสังคม’ แล้วในเวลานี้ 

ฝรั่งเศสนัด ‘หยุดประเทศ’ ชุมนุมใหญ่สุดในรอบ 10 ปี ต้านปฏิรูประบบเงินบำนาญ

ตำรวจนครบาลปารีสได้ออกแถลงเตือนว่าอาจมีการก่อเหตุรุนแรงและสร้างความเสียหายต่อธุรกิจได้ จึงขอให้ผู้ประกอบการและประชาชนเฝ้าระวัง ทั้งนี้ ทางการได้สั่งห้ามการชุมนุมในถนนชองเอลิเซ่ ถนนรอบๆทำเนียบประธานาธิบดี  รอบๆรัฐสภา และบริเวณมหาวิหารนอร์เตรอดาม  พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6,000 นายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมฝูงชนในเขตเมืองปารีส

 

มีรายงานข่าวว่า โรงแรมหลายแห่งทั่วกรุงปารีสถูกลูกค้าบอกยกเลิกเข้าพักก่อนวันนัดหมายชุมนุมใหญ่ (5 ธ.ค.) ขณะที่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ ประกาศจะเปิดทำการช้ากว่าปกติ และอาจปิดการเข้าชมในบางส่วน เช่นเดียวกับหอไอเฟลที่มีการออกคำเตือนนักท่องเที่ยวให้เลื่อนการมาเยี่ยมชมออกไปก่อน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความสะดวกจากการที่ระบบขนส่งไม่ได้เปิดทำการตามปกติ  คาดว่าจะมีการยกเลิกบริการรถไฟความเร็วสูง 9 ขบวนจากทั้งหมด 10 ขบวน นอกจากนี้ บริษัท แอร์ ฟรานซ์ สายการบินของฝรั่งเศสยังคาดการณ์ว่า จะมีการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 30% ของเที่ยวบินทั้งหมด