“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน

04 ธ.ค. 2562 | 11:53 น.

“บิ๊กตู่”กดปุ่มเปิดเทอร์มินัล 2  อาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เตรียมยกระดับเป็นศูนย์กลางการบินอาเซียน ควบคู่พัฒนาการขนส่งทางราง รองรับผู้โดยสารสูงสุด 60 ล้านคน

 

วันนี้ ( 4 ธ.ค.62) เวลา 13.45 น.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา  ซึ่งมีพลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ประธานกรรมการบริหารกองทุนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และพลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ

“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน


โดยผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ว่า ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ได้เปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 รวมระยะเวลา 30 ปี ปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี และมีจำนวนเที่ยวบินประมาณ 15,000 เที่ยวบินต่อปี จึงทำให้อาคารพักผู้โดยสารหลังเดิมที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพียง 7 แสนคนต่อปี เกิดความแออัด จึงได้ก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2

“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน

มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารและสายการบินพาณิชย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ภาคตะวันออก และสนับสนุนการยกระดับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือโครงการ อีอีซี (Eastern Economic Corridor : EEC) ของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยอาคารพักผู้โดยสาร หลังที่ 2  มีพื้นที่ใช้สอย 30,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน ถึง 5 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะสามารถให้บริการได้เต็มศักยภาพ จนถึงปี พ.ศ. 2570 ที่ประมาณการจำนวนผู้โดยสารไว้ว่าจะมีมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี 

ขณะที่นายกรัฐมนตรี  กล่าวเปิดงานว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยเล็งเห็นว่าการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางรางและทางอากาศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศให้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน

ท่าอากาศยานอู่ตะเภาได้รับการพัฒนาเป็นสนามบินพาณิชย์มายาวนานกว่า 30 ปี  รัฐบาลได้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโต จึงทำให้เกิดนโยบายพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ มีการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสาร 

ขณะเดียวกันยังได้เตรียมความพร้อมในด้านอื่น ๆ ให้ครอบคลุมและสามารถรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมการบินของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระยะต่อไป รัฐบาลได้มีแผนในการยกระดับท่าอากาศยานแห่งนี้ ให้เป็นศูนย์กลางการบินของอาเซียน ภายใต้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastern Airport City)

“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน

“บิ๊กตู่”ชูอู่ตะเภาฮับการบิน  เป้ารองรับสูงสุด 60 ล้านคน

ควบคู่ไปกับการพัฒนาการขนส่งทางราง เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทั้ง 3 สนามบินหลักของประเทศไทยผ่านทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยมีเป้าหมายให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 60 ล้านคนต่อปี

สำหรับ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 สามารถรองรับได้ 1,200 คนต่อชั่วโมง  ภายในมีร้านค้าปลอดอากร  ร้านจำหน่ายสินค้า  ลานจอดรถ หลังคาคลุมทางเดิน และอาคารคลังสินค้าหลังใหม่ ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิและเป็น Aviation Hub หลักในภูมิภาคนี้