ความเครียดของ ‘ลุงตู่’

04 ธ.ค. 2562 | 03:30 น.

 

ปลายธันวาคมนี้ จะครบ 5 เดือน ที่รัฐบาลประยุทธ์ 2” ลุยทำงานแบบไม่เต็มสูบ อันเนื่องมาจากงบประมาณปี 2563 กว่าจะออกมาให้ใช้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ปลายเดือนมกราคมปีหน้า เปรียบดั่งการขับรถลากเกียร์ตํ่าไปให้ถึงปลายทาง แต่จะใส่ไปถึงเกียร์ 5 ก็ทำไม่ได้

ไหนจะปัจจัยภายนอกที่มาจากพิษสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ไหนจะปัญหาภายในรัฐบาลพรรคร่วมเสียงปริ่มนํ้าเองที่เริ่มส่อแววทำงานไปคนละทิศละทาง โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ที่จีดีพีไตรมาสที่ 3 ขยายตัวเพียง 2.4% แม้จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2.3%

แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ พล..ประยุทธ์ พอใจ แถมส่งสัญญาณว่ามีอาการเครียดเพิ่มขึ้น เพราะว่ามีหลายเรื่องที่สามารถเร่งเครื่องได้อีกระหว่างรองบปี 2563 แต่ก็ไม่สามารถทำได้ตามที่สภาพัฒน์ แนะนำว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการส่งออกให้สามารถขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 3%

 

 

ขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้สามารถขยายตัวและสนับสนุนเศรษฐกิจในภาพรวมได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง และการรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐ

ทว่าทั้ง 3 เรื่อง ไม่ได้อยู่ในมือของรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐพรรคเดียวที่จะขับเคลื่อนได้ จึงหวังจะใช้กลไกของครม.เศรษฐกิจ ก็ยังไม่มีพลังมากพอ งัดได้แค่มาตรการของกระทรวงการคลังที่พอจะเป็นรูปธรรม

จนทำให้บิ๊กตู่สั่งรื้อ ให้ปรับการทำงานของครม.เศรษฐกิจให้มีการหารือร่วมกันมากกว่านี้ อยากให้คิดทั้งเศรษฐกิจแม็คโครและไมโคร ขับเคลื่อนเป็นประเด็น ถึงขนาดที่ว่านายกฯลุงตู่ลงมือทำลิสต์บัญชีรายการมาตรการเศรษฐกิจที่ต้องการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง

ความเครียดของ ‘ลุงตู่’

ว่าต้องการให้เร่งด้านใดบ้าง เพิ่มเติมกว่ามาตรการของกระทรวงการคลัง อย่างเช่น เรื่องแรงงาน เอสเอ็มอี การส่งออก และโดยเฉพาะการลงทุนรัฐวิสาหกิจในส่วนของกระทรวงคมนาคม ที่ยังช้าอยู่หลายโครงการ และนอกจากนี้ในลิสต์ ยังให้เตรียมการบริหารความเสี่ยง เช่น เรื่องภัยแล้ง และแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ข้าว และอ้อยด้วย

มีการวิเคราะห์กันภายในวงเล็กของรัฐบาลว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกยังอ่อนตัวต่อไปแบบนี้อีกระยะหนึ่ง สิ่งที่รัฐบาลต้องทำในขณะนี้คือต้องเตรียมมาตรการก๊อกต่างๆ ไว้ เพื่อให้บริหารสิ่งเหล่านั้นได้ ไม่ใช่มีก๊อกของกระทรวงการคลังกระทรวงเดียวที่ขับเคลื่อนได้

เพราะถ้าคับขันมากกว่านี้จะไม่ส่งผลดีกับเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 จึงต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการต่างๆ จากทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้พรรคร่วมรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยเฉพาะสิ่งที่พยายามเข็นอย่างมาก คือ ในส่วนของการลงทุนรัฐวิสาหกิจ เม็ดเงินกว่า 1.1 แสนล้านบาท ที่เข็นมาตลอดเกือบ 5 เดือน ว่าทำยังไงหนอ จึงจะช่วยนำเงินลงทุนออกมาให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้

เอาว่าแค่นี้ก็เป็นบทพิสูจน์หนึ่งของพรรคร่วม ว่าช่วยกันได้ไหม ในภาวะแบบนี้

 

คอลัมน์ อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562

ความเครียดของ ‘ลุงตู่’