จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบกากกัมมันตรังสี"องครักษ์"

01 ธ.ค. 2562 | 03:21 น.

"ศรีสุวรรณ"จ่อนำชาวนครนายกร้อง ป.ป.ช.สอบกากกัมมันตรังสีองค์รักษ์

 

จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบกากกัมมันตรังสี"องครักษ์"

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ(องค์กรมหาชน) หรือ​ สทน.ได้ดำเนินโครงการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาด 20 เมกะวัตต์ มูลค่า 16,000 ล้านบาทขึ้น ณ ต.ทรายมูล อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามกฎหมายในขณะนี้นั้น

         แต่ปรากฏว่า สทน.ได้มีการนำกากกัมมันตรังสีซึ่งเกิดจากการผลิต หรือการใช้วัสดุนิวเคลียร์หรือจากเครื่องกําเนิดรังสี ที่หมดอายุการใช้งานแล้ว จากบางเขนและคลอง 5 ปทุมธานี ทำการขนย้ายนำมาเก็บไว้ ณ โรงเก็บกากกัมมันตรังสี ต.ทรายมูล อ.องครักษ์แล้ว โดยที่ยังไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตาม ม.51 ของ พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ 2559 ซึ่งจะต้องมีการการจัดทํารายงานวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์  ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้ประกาศกําหนดซึ่งประกอบด้วย (1)ผลกระทบจากเหตุการณ์ภายนอกต่อพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์  ทั้งในส่วนที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติและการกระทําของมนุษย์ (2)ลักษณะของพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (3)รายงานด้านสิ่งแวดล้อม (4)การกระจายตัวของประชากรบริเวณโดยรอบพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (5)เส้นทางการอพยพประชาชนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี (6)การป้องกันและระงับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องมีการรับฟังความเห็นของประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบพื้นที่ตั้งให้เสร็จสิ้นเสียก่อนด้วย

การนำกากกัมมันตรังสีซึ่งเป็นวัสดุนิวเคลียร์ที่มีความเป็นอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมสูงไปกักเก็บไว้ที่องครักษ์ดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า​ หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ละเมิดกฎหมายเสียเองโดยไม่คำนึงถึงขั้นตอน วิธีการ ตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิของชาวองครักษ์ นครนายกตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.4 ม.25 ม.41 ม.43 ให้การรับรองและคุ้มครองไว้ โดยที่เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตาม ม.53 ม.57 ม.58 และม.59 กำหนด แต่ทว่า ผอ.สถาบันเทคโลโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (สปพ.) กลับละเลยกฎหมายดังกล่าว อันอาจถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่โดยชัดแจ้ง

          ด้วยเหตุดังกล่าว​ ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและชาวนครนายก จะยกขบวนกันนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน เอาผิดผู้บริหารของ สทน. และ สปพ. ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ นนทบุรี นายศรีสุวรรณกล่าว