คกก.วัตถุอันตรายยันมติถูกต้อง

30 พ.ย. 2562 | 05:57 น.

“ภักดี  โพธิศิริ”หนึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตรายยืนยันมติที่ประชุมแบน-ไม่แบน 3 สาร ถูกต้องตามกฎหมาย เผยบรรยากาศการประชุมยอมรับความเห็นต่าง ผลสรุปเสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องเลื่อนแบน เพื่อเร่งหามาตรการรองรับผลกระทบผู้มีส่วนได้-เสียอย่างรอบคอบ

นายภักดี โพธิศิริ อดีตกรรมการ คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) อดีตเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา(อย.) ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่เปิดเผยถึง การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ว่า ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิเห็นด้วยกับมติที่ประชุม(ให้เลื่อนการแบนสารพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสจากวันที่ 1 ธ.ค.2562 เป็นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 ส่วนสารไกลโฟเซตให้จำกัดการใช้) ทั้งนี้การประชุมถือว่าดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งอยากให้ประชาชน และมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายรับฟังข้อมูลทุกฝ่ายให้รอบคอบ

คกก.วัตถุอันตรายยันมติถูกต้อง

                                              ภักดี โพธิศิริ

 

เขากล่าวอีกว่าเดิมปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอความคืบหน้าการออกประกาศกำหนดให้สารทั้ง 3 ตัวเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมว่า ได้ไปจัดเตรียมการสำหรับการแบนตามกำหนดแล้ว แต่พบปัญหาอุปสรรคไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลา เนื่องจากการยกเลิกสารทั้ง 3 ตัวมีผลกระทบต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างมาก ทำให้รัฐต้องใช้เงินจํานวนมากในการแก้ปัญหาทั้งระบบ จึงเสนอในที่ประชุมขอใช้มาตรการจํากัดการใช้ทั้ง 3 สารเช่นเดิม แต่ขอลดระยะเวลาการจำกัดการใช้จากเดิมที่กําหนดไว้ 2 ปี เป็น 1 ปี

คกก.วัตถุอันตรายยันมติถูกต้อง

บรรยากาศในที่ประชุม ประธานฯได้เปิดโอกาสให้กรรมการทุกคนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ และกรรมการส่วนใหญ่เสนอให้ออกประกาศโดยปรับพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 แต่ให้มีขยายเวลาในการยกเลิกไปอีก 6 เดือน ซึ่งน่าจะเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้กรมวิชาการเกษตรไปเร่งรัดการเตรียมความพร้อมในเรื่องของสารทดแทนหรือวิธีการอื่น ๆ ที่เหมาะสม และมาตรการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

 

ส่วนไกลโฟเซต ที่ประชุมเห็นว่ายังไม่สมควรประกาศเป็นชนิดที่ 4 และขอให้ใช้มาตรการจํากัดการใช้ไปก่อน เนื่องจากสารดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรต้องมีการติดตามเฝ้าระวังถึงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และนำมารายงานคณะกรรมการฯ ทุก 3 เดือน 

คกก.วัตถุอันตรายยันมติถูกต้อง

ทั้งนี้จากข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงของไกลโฟเซตในสหรัฐอเมริกา โดย EPA มีค่า LD50 oral มากกว่า 5,๐๐๐ mg/kg และจัดเป็นสารก่อมะเร็ง ประเภท 2A คือยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ และสหรัฐอเมริกายังคงอนุญาตให้ใช้ได้ เนื่องจากมีการบริหารจัดการที่ดี มีการควบคุม และให้ความรู้ให้เกษตรกรได้ใช้อย่างถูกต้อง เนื่องจากไกลโฟเซตเป็นของแข็ง ไม่มีการระเหย จึงไม่มีการแพร่กระจายในอากาศ จัดว่ามีความเป็นพิษต่ำหากไม่มีการสัมผัสโดยตรง อย่างไรก็ตามกรมวิชาการเกษตรต้องไปศึกษาเรื่องสารทดแทนและนํามาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

นายภักดีเผยอีกว่า ช่วงท้ายการประชุมฝ่ายเลขานุการได้พิมพ์ร่างมติเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาปรับแก้ร่างมติจนเป็นที่พอใจในระดับหนึ่ง และประธานได้สอบถามกรรมการว่าเห็นด้วยหรือไม่ กรรมการส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่มีกรรมการบางท่านแจ้งว่าไม่เห็นด้วยสำหรับมติที่จะกำหนดให้แบน สาร 2 ตัว ภายใน 6 เดือน เนื่องจากเห็นว่าระยะเวลาที่จะกำหนดควรต้องให้กรมวิชาการเกษตรไปศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน จึงค่อยนำมาพิจารณากำหนด และมีกรรมการบางท่านขอตั้งเป็นข้อสังเกต ซึ่งฝ่ายเลขาขอให้ที่ประชุมรับรองมติด้วย