บิ๊กค่ายรถฟันธง ปีหน้าแรงงานยังเสี่ยง!

29 พ.ย. 2562 | 07:17 น.

 

 

วิกฤติเศรษฐกิจโลกเขย่ายานยนต์ทั้งซัพพายเชนสะเทือน ล่าสุดอินเดีย อเมริกา จีน ญี่ปุ่นยอดขายรถยนต์ร่วงแล้วไม่น้อยกว่า10%  เผยซัพพายเชนอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบมีช่วงยาว ขณะที่คนไม่ซื้อสินค้าทุน ซื้อแต่สินค้ายังชีพ  ด้านวงการชิ้นส่วนรถยนต์เผยปี63รถยนต์ส่งออกยังกระทบต่อเนื่องจาก 3 ปัจจัยเสี่ยงหลักเดิม

 

แหล่งข่าวจากค่ายรถยนต์รายใหญ่ติด 1 ใน 3 ค่ายแรก ที่ปักฐานผลิตในประเทศไทยเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ด้วยความกังวลว่า  อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ นับเป็นอีกกลุ่มเสี่ยง และเป็นกลุ่มแรกๆที่ส่งสัญญาณลดชั่วโมงการทำงานลง   ลดโอทีลง  โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นล้วนมาจาก 3 ปัจจัยเสี่ยงเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจโลก  สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ และผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่ง  ทำให้การส่งออกรถยนต์ได้รับผลกระทบ  เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดีย จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลี ที่มียอดขายรถยนต์ร่วงลงไปแล้วไม่ต่ำกว่า10% ขณะนี้

ทั้งนี้ทั้งซัพพายเชนในอุตสาหกรรมรถยนต์มีช่วงที่ยาว มีชิ้นส่วนรถยนต์จำนวนมากที่ใช้แรงงาน   เมื่อเศรษฐกิจโลกซบเซาลง กำลังซื้อหดตัว คนไม่ออกมาซื้อสินค้าทุนเช่น คอนโดมิเนียม ที่เวลานี้ล้นตลาด  รถยนต์ก็ขายไม่ดีโดยเฉพาะตลาดส่งออก คนออกมาจับจ่ายสินค้ายังชีพเป็นหลัก

สอดคล้องกับกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฉายภาพให้เห็นว่า ปี2563  ตัวแปรที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบตกอยู่ในกลุ่มที่ต้องจับตา ยังคงมาจาก3 ปัจจัยเสี่ยงหลักที่เกิดขึ้นในปี2562 อาจจะกระทบต่อเนื่องถึงปีหน้า   ดังนั้นบางตลาดที่ไทยส่งออกไปจะมีปัญหา เช่นการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังจีน  หรือการส่งออกในรูปรถยนต์สำเร็จรูปไปยังสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นถ้าปัจจัยเสี่ยงยังมาจาก3ตัวแปรดังกล่าวนั้น

“ในแง่ภาพรวมปริมาณการผลิตรวมลดลงแน่นอน จากที่ต่อปีผลิตเพื่อขายในประเทศประมาณ 1 ล้านคัน และส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน ก็ยังต้องลุ้นในส่วนของตัวเลขส่งออก ดังนั้นภาพรวมกำลังผลิตรถยนต์ถ้าจะกระทบก็จะมาจากการส่งออกที่ลดลง  ดังนั้นสิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยคือลงมาดูแลค่าเงินบาทอย่าให้แข็งค่ามาก จะได้แข่งขันกับคู่แข่งในภูมิภาคอาเซียนได้ เพราะเวลานี้ค่าเงินบาทแข็งค่าสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ หรือแข็งค่าสูงกว่าคู่แข่งราว 6-7%แล้ว ยังน่าเป็นห่วง”