3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

29 พ.ย. 2562 | 06:55 น.

อลังการไทยเปิดบ้านผ่านงาน  “ไทยแลนด์ รับเบอร์ เอ็กซ์โปร์” ขายยางทั่วโลก  เผยมี 3 ชาติเข้าร่วมงานช้อปปิ้งยางไทย “ จีน-อังกฤษ-การ์ต้า”  รัฐหวังดัน กยท. ก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับสากลในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ ด้าน "จุรินทร์" โชว์ผลงาน 3 เดือนกว่าขายยาง 3.4 หมื่นล้าน

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

วันที่ 29 พ.ย. 62 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “Thailand Rubber Expo” โดยได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี และแผนบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ พ.ศ.2560-2564 ว่า มียุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้า(ยางพารา) รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่ไปกับบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดี มั่นคงและยั่งยืน

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

แม้ว่าในอดีตอุตสาหกรรมยางพาราของไทยมีความเติบโตตามทิศทางราคายางและความต้องการใช้ยางทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ปัจจุบันอุตสาหกรรมยางของไทยกำลังเผชิญกับความท้าท้ายจากภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ประเทศที่เป็นตลาดหลักยางพาราที่ไทยต้องพึ่งพาเพื่อการส่งออก เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรปมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หรือประเทศคู่มิตรอย่างจีนที่ต้องการเป็นศูนย์กลางสินค้ายางพาราระดับโลกตามแผนพัฒนาของจีน มีการลงทุนปลูกยางในประเทศอื่นเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม) ซึ่งจะทำให้จีนสามารถเพิ่มผลผลิตยางพาราเพื่อใช้ภายในประเทศมากขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของไทยได้

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของไทยอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการพัฒนาและผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางแบบครบวงจร มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราในภูมิภาค เพื่อรักษาระดับผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก รวมทั้ง การส่งเสริมให้ผู้ผลิตยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าสู่ระบบห่วงโซ่อุปทานของโลก พร้อมยกระดับและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้ายางพาราไทย ให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้ซื้อในต่างประเทศอย่างที่เป็นมาโดยตลอด

          3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย  

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความต้องการของยางพาราในตลาดโลก รัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะตลาดส่งออกหลักเท่านั้น แต่ยังคงดำเนินงานเชิงรุกเพื่อแสวงหาและขยายไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพอื่นๆ เช่น อินเดีย ตุรกี เยอรมนี รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ยาง อันเป็นมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางในการสร้างเสถียรภาพราคายางให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางของประเทศไทย

              3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

อุตสาหกรรมยางของไทยมีจุดแข็งเนื่องจากมีหน่วยงานกำกับและดูแลส่งเสริมอุตสาหกรรมยางอย่างครบวงจร เช่น กรมวิชาการเกษตร การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ และเอกชนในหลายภาคส่วนในการร่วมกันพัฒนาและผลักดันสินค้ายางพาราของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี

            3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

สำหรับการจัดงาน “Thailand Rubber Expo ” ในครั้งนี้ มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทยเป็นแม่งานหลัก ในฐานะหน่วยงานที่ใกล้ชิดและเข้าใจถึงความต้องการของเกษตรกรโดยตรง จัดขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในกลไกและเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมยางพาราไทยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมทั้ั้งนำไปสู่ความร่วมมือ การสร้างเครือข่าย การเจรจาการค้าการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับพี่น้้องเกษตรกรชาวสวนยางไทยต่อไป

 

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดงาน "Thailand Rubber Expo" ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2562 เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้านยางพาราทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์จากยางพาราของเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางไทย และผู้ประกอบกิจการ รวมทั้งเป็นการแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำของไทยในฐานะผู้ผลิตยางคุณภาพและธุรกิจการส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก โดยใช้รูปแบบการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงการยางพาราของไทย เพื่อให้สาธารณชนได้มีโอกาสได้รับความรู้และเข้าใจประโยชน์ของยางพารามากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมการแปรรูปยางพาราต่อไป

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนจับคู่ธุรกิจ/นัดหมายเจรจาการค้า โซนออกร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่น โซนนิทรรศการนวัตกรรมและงานวิจัยยางพารา โซนเสวนาและจัดกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ในงาน โซนให้บริการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนนิทรรศการให้ความรู้จากของหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมบูรณาการ อาทิ สมาคมยางพาราไทย สมาคมน้ำยางข้นไทย สมาคมไม้ยางพารา นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ Rubber City อีกทั้งยังจะได้จับจ่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราและสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง กว่า 250 ร้านค้า

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ในแต่ละปีประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพาราธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก ผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 4.9 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 1.5 แสนล้านบาท มีเกษตรกรอยู่ในวงจรการผลิตกว่า 1.7 ล้านครัวเรือน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร บริหารจัดการเกี่ยวกับการเงินของกองทุนพัฒนายางพารา รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา โดยการส่งเสริมสนับสนุนและจัดให้มีการศึกษา วิเคราะห์วิจัย พัฒนาเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับยางพารา ส่งเสริม สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้ประกอบกิจการยาง ทั้งด้านวิชาการ การเงิน การผลิต การแปรรูป การอุตสาหกรรม การตลาด การประกอบธุรกิจ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพด้วย

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ พยายามผลักดันให้ กยท. ก้าวสู่การเป็น “องค์กรชั้นนำระดับสากลในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” จึงต้องมีการบูรณาการจากหลายภาคส่วนร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิตที่มั่นคง พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบกิจการยาง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า และนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เรื่องยางพาราจะมีอยู่ 2-3 ประเด็นที่จะต้องมีการเร่งรัดดำเนินการ เรื่องที่ 1. คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งขณะนี้ได้มีการ โอนเงินส่วนต่างงวดแรกแล้ว แต่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ดำเนินการจนถึงวันนี้โอนเงินส่วนต่างไปได้ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนเกษตรกรทั้งหมด ที่โครงการประกันรายได้ยางล่าช้าเพราะยังมีการตรวจสอบสวน โดยการยางแห่งประเทศไทยร่วมกับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็ทำให้เกิดความล่าช้า เพราะกำลังการยางมีไม่เพียงพอกว่าจะประชุมคณะกรรมการตรวจสวนยางเสร็จก็ใช้เวลา

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

ล่าสุดจึงได้เชิญรัฐมนตรีเกษตรฯ และสำนักงบประมาณ การยางแห่งประเทศไทย และ ธ.ก.ส. มาหารือร่วมกันได้ข้อสรุปแล้วว่าการยางจะไปปรับระเบียบในการตรวจสวนโดยให้เจ้าของสวนเป็นผู้ยื่น ว่ามีจำนวนกี่ไร่และทำยางชนิดใด แล้วให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านคนใดคนหนึ่งทำการรับรองและจากนั้นก็ส่งให้การยาง แล้วการยางก็ส่งให้กับ ธ.ก.ส.ก็สามารถโอนเงินส่วนต่างได้ทันที ตรงนี้ก็คาดว่าถ้าจากนี้ไปจะทำให้การโอนเงินมีความรวดเร็วขึ้น รวมทั้งผู้ที่ถือบัตรสีชมพูก็สามารถได้รับเงินส่วนต่างด้วยได้ เพราะได้หารือร่วมกับสำนักงบเรียบร้อยแล้วนี่คือเรื่องประกันรายได้

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

เรื่องที่ 2.  เรื่องการแปรรูปยางพาราหรือการเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศมีอยู่ 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งก็คือการใช้ยางจากภาคเอกชนซึ่งจะมีคนมาลงทุนเพิ่มเติมขึ้น เมื่อสักครู่มีนักลงทุนจีนแจ้งให้ทราบว่าจะมีการมาลงทุนในอีอีซีเพิ่มขึ้นในการทำโรงงานผลิตยางจำนวนมากที่จะมาลงทุนล็อตถัดไป อันนี้ถือเป็นข่าวดี รวมทั้งสหกรณ์ ภาคเอกชนต่างๆที่ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมในการใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการที่จะผลิตสินค้าตั้งต้น เหมือนงานเอ็กซ์โปยางวันนี้ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีและท่านรัฐมนตรีเกษตร มาเยี่ยมชมและมาเปิดงานก็เห็นความหลากหลายของนวัตกรรมและสินค้าหลากหลายที่ใช้นวัตกรรมมากขึ้น และการใช้ยางในประเทศให้เพิ่มขึ้น อีกส่วนหนึ่งโดยส่วนราชการตรงนี้คณะรัฐมนตรีเคยมีมติไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ส่วนราชการเพิ่มการใช้ยางในการทำถนน ทำฝาย ทำวัตถุดิบ ทำสินค้า ที่ใช้เพื่อการจราจรรวมทั้งอื่น ๆ ด้วย ซึ่งตรงนี้ยังมีความคืบหน้าไม่มากนัก

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

"ผมจึงมอบหมายให้ทางท่านรัฐมนตรีเกษตรและการยางได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ว่าตามที่คณะรัฐมนตรีได้สั่งการไปนั้นขณะนี้แต่ละส่วนราชการ ได้ดำเนินการไปถึงไหนอย่างไรมีการผลิตภัณฑ์อะไร ใช้ยางไปมากน้อยแค่ไหนและจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบ หรือพิจารณาสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป เพื่อเพิ่มการใช้อย่างในประเทศ " นายจุรินทร์ กล่าว

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

เรื่องที่ 3. ารส่งออกยางอันนี้เป็นเรื่องที่มีการเร่งรัด ตนได้นำคณะเอกชนและการยางแห่งประเทศไทยไปเปิดตลาดในหลายพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จชัดเจนมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจที่จะซื้ออย่างจากประเทศไทยเช่นอินเดีย 100,000 ตัน มูลค่า ประมาณ 9,000 ล้านบาทและที่ตุรกีล็อตใหญ่สุด คือหมอนยางพารา 20 ล้านใบ โดยการยางฯ 10 ล้านใบ ภาคเอกชน 10 ล้านใบ รวมเป็นมูลค่าทั้งหมด 12,000 ล้านบาท และล่าสุดการยางขายให้กับจีนและฮ่องกงรวม 260,000 ตันเป็นเงิน 13,000 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ รวมกัน 3-4 ประเทศราว 34,000 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการต่อไปก็คือ จะต้องมีการเร่งรัดการส่งมอบเพราะทันทีที่มีการส่งมอบตัวเลขการส่งออกก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ตนได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับภาคเอกชนให้เร่งส่งมอบโดยเร็วตั้งแต่เดือนธันวาเป็นต้นไป และให้เร่งส่งมอบสัญญาที่ได้ไปเซ็นเพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกและจะได้มีผลในการที่จะนำเงินเข้าประเทศมาช่วยเกษตรกรต่อไป

3 ประเทศสนช้อปยางพาราไทย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  สำหรับตลาดใหม่นอกจาก 30 ประเทศที่ตนจะเดินทางไปเปิดตลาดแล้ว ตะวันออกกลางกับแอฟริกาใต้ ก็จะเป็นเป้าหมาย ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการแล้วและสอดคล้องกับท่านนายกรัฐมนตรีได้มีดำริว่าอยากให้ไปเปิดตลาดที่แอฟริกาใต้ ก็จะไปทริปเดียวกันกับตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าระหว่างบาห์เรนกับกาตาร์ ตรงไหนที่พร้อมกว่ามีความเหมาะสมกว่า มีลูกค้าที่จะเซ็นสัญญาซื้อขายกับเราได้และถัดไปก็จะต่อไปที่แอฟริกา จะเป็นทริปเดียวกันหวังว่าจะเพิ่มยอดส่งออกเรื่องยางพาราได้อีกไม่น้อยทีเดียว และทันทีที่มีการส่งมอบเปิด เงินก็เข้าประเทศลงเรือผ่านด่านศุลกากรเป็นขั้นตอนกระบวนการตัวเลขการส่งออกก็จะเพิ่มขึ้น สำหรับประกันรายได้ตอนนี้ช้ามาพอสมควร อย่างไรก็ตามสำหรับจีน 60,000 ตัน กับ ฮ่องกง 200,000 ตัน ที่เซ็นไปและขณะนี้การยางก็กำลังเจรจากับจีนเพิ่มเติมอยู่และจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้

ด้านแหล่งข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า มี 3 ชาติ ได้แก่ จีน อังกฤษ และกาตาร์ สนใจที่เข้าร่วมงาน คาดว่าจะเกิดการดีลขายยางเกิดขึ้นในระหว่างงานนี้ด้วย