อย่างไร?‘จีน’ก็ไม่ยอมตัด ‘เนื้อร้าย-ฮ่องกง’แน่นอน!!

วันนี้ ขอต่อด้วยเรื่องการชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกงอีกสักวันนะครับ โดยจะเล่าย้อนจากผลการเลือกตั้งท้องถิ่นในฮ่องกงหลายวันก่อน...

การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น 18 เขต เพื่อเลือก 452 ที่นั่งจากจำนวนที่นั่งทั้งสิ้น 479 ที่นั่ง โดยมีประชาชน 3 ล้านคนไปออกเสียง ซึ่งถือเป็น 71% ของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ผลปรากฏว่าฝ่ายประชาธิปไตยกวาดมาได้ 17 เขต ฝ่ายสนับสนุนปักกิ่งได้เพียงเขตเดียว

เป็นสัญญาณที่ชาวฮ่องกงส่งไปถึงรัฐบาลปักกิ่งโดยตรง แม้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีพลังเพียงพอที่จะไปสั่นคลอนอำนาจของรัฐบาลปักกิ่งได้ก็ตาม เนื่องจากเป็นเพียงการเลือกตั้งเขต แต่การเลือกตั้งส.ส.ในปีหน้า จะเป็นเครื่องชี้ขาดอำนาจต่อรองกับปักกิ่งได้!?

เมื่อเป็นอย่างนี้ รัฐบาลปักกิ่งจึงต้องเตรียมมาตรการล่วงหน้า เพื่อต่อกรกับมติสภาฮ่องกง หากฝ่ายประชาธิปไตยครองเสียงข้างมากในสภาฯ ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ในปีหน้า ฝ่ายประชาธิปไตยจะอาศัยฐานเสียงจากเลือกตั้งท้องถิ่น กวาดที่นั่งส.ส.เกือบทั้งหมดได้อย่างแน่นอน

การชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง เริ่มต้นจากการเดินขบวนของเยาวชนนักศึกษาที่จะเดินขบวนทุกปี เมื่อครบรอบวันส่งมอบเกาะฮ่องกงให้แก่จีน (15 มิถุนายน 2540) แต่ปีนี้ สหรัฐฯ และตะวันตกได้อาศัยเหตุการณ์นี้เข้าแทรกแซงจนบานปลายอย่างที่เห็น...

จีนรู้ว่ากำลังต่อสู้กับอะไร?อยู่ จึงเดินหมากสู้อย่างชาติที่มีปัญญา “รู้เขา-รู้เรา” และรู้กระทั่งว่าสหรัฐฯ กับตะวันตกต้องการทำลายฮ่องกงเพราะอะไร?เนื่องจากรู้ทัน จีนจึงเดินหมากอย่างระมัดระวัง และเกทับ “บลัฟแหลก” ว่าจะใช้เสินเจิ้นเป็นศูนย์กลางแทนฮ่องกง

รวมทั้งยังรู้ด้วยว่า การประท้วงอันยาวนานที่ฮ่องกง การเลือกตั้งท้องถิ่นและการเลือกตั้งส.ส.ในปีหน้า คือการเดินแต้มทางการเมืองของสหรัฐฯ กับตะวันตก

โดยเห็นได้ชัดเจนจากการที่สหรัฐฯ ได้ร่างกฎหมาย Hong Kong Human Rights and Democracy Act โดยอาศัยมาตรการนี้อ้างว่าเพื่อรักษาสิทธิพิเศษงดภาษีในการส่งสินค้าฮ่องกงไปยังสหรัฐฯ

ใช้มาตรการ 2 อย่าง คือ 1)ให้มีระบบเฝ้าจับตาและนำเสนอรายงานประเมินรับรองเป็นรายปีว่าทางการฮ่องกงเคารพธรรมนูญการปกครอง ซึ่งให้หลักประกันในเรื่องความมีอิสระของเขตปกครองพิเศษของจีนแห่งนี้หรือไม่? เพื่อพิจารณาทบทวนสิทธิพิเศษที่สหรัฐฯ ให้แก่ฮ่องกง

และ 2) ติดดาบให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยให้มีอำนาจสั่งควํ่าบาตรเจ้าหน้าที่ฮ่องกงที่ละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน

ร่างกฎหมายนี้เริ่มจากสภาล่างอนุมัติโดยสภาบน และล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามไปแล้ว

มาถึงตรงนี้ การต่อสู้ก็จะยังคงมีต่อไป ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเองก็แสดงความแข็งกร้าวมาตลอด ว่าพร้อมเผชิญหน้าทุกรูปแบบเพื่อรักษาฮ่องกง!!

อนาคตของฮ่องกง จึงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าสถานการณ์จะลงเอยอย่างไร?? 

คอลัมน์อยู่กับปัจจุบัน โดย : พงษ์ศักดิ์ ศรีสด

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,527 วันที่ 1 - 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562