เปิดวิชันหนุ่มไฟแรง ปั้น Eatigo สู่แอพเบอร์หนึ่ง ด้วย ‘เบสต์ดีล’

01 ธ.ค. 2562 | 05:05 น.

ในแวดวงธุรกิจยุคใหม่ คนมักพูดถึงสตาร์ตอัพว่ามีเยอะแยะ เกิดขึ้นมากมายในตลาด แต่อยู่รอดจริงๆ เพียงแค่ไม่กี่ราย และไม่กี่รายนั้น ก็คือ Eatigoที่ไม่ได้แค่อยู่รอด แต่เขาเติบใหญ่ไปในระดับภูมิภาคเอเชียได้แล้วเป็นอย่างดี และเคยถึงขั้น ล้มบิ๊กในตลาดสิงคโปร์มาแล้วเสียด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ทำไม Eatigo จึงเป็นสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จ  

เปิดวิชันหนุ่มไฟแรง ปั้น Eatigo สู่แอพเบอร์หนึ่ง ด้วย ‘เบสต์ดีล’

“คุณหลุยส์ - ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล” หนุ่มไฟแรงผู้ปั้น Eatigo แอพพลิเคชันจองร้านอาหารฮอตฮิตอันดับ 1 ของอาเซียน ที่เหล่าหนุ่มสาวใน 7-8 ประเทศเลือกใช้ เขาคนนี้อยู่ในครอบครัวของนักธุรกิจ คุณพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจสิ่งทอ คุณแม่ทำธุรกิจโรงแรม ส่วนพี่สาว คือ มีมี่ - มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ “Milin” เพราะฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจ เลยว่า ผู้ชายคนนี้มีหัวธุรกิจมาจากไหน

เขาไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 11 ปี หลังจากนั้นไปเรียนต่อวิศวกรรมไฟฟ้าที่ยูซีแอล (University College London) 3 ปีครึ่ง ก็จบปริญญาโท ด้วยความที่เกรดเรียนดี ก็เหมือนพาสชั้นได้ ไม่ต้องจบแค่ตรีแล้ว แต่จบโทได้เลย

หลังจากนั้น เขาก็เริ่มทำธุรกิจได้เรียนรู้งานด้านการตลาด และการบริหาร และยังเคยเปิดบริษัททำเว็บไซต์ เขียนโปรแกรมมาแล้ว จนช่วงหนึ่งที่มีคนมาคุยเรื่องธุรกิจร้านอาหาร เขาจึงเกิดไอเดีย ที่บริการจองโต๊ะอาหาร ซึ่งคล้ายๆ กับบริการของ Agoda ที่จองโรงแรมที่พัก โดยรูปแบบการจองของเขา จะให้เบสต์ดีลสำหรับผู้จอง ด้วยส่วนลด และเพิ่มกำไรให้กับร้านอาหาร โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่นั่ง

“หลุยส์” และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 3 คน เริ่มลุยธุรกิจ Eatigo มา 5 ปี สามารถผลักดันให้ Eatigo เติบโตอย่างก้าวกระโดด และปัจจุบันเปิดบริการแล้วใน 7-8 ประเทศ อาทิ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง และการเติบโตรวมทั้งการขยายธุรกิจหลังจากนี้ คือ การพยายามขยายไปในแนวลึกมากขึ้น เช่น การขยายออกสู่ต่างจังหวัด ส่วนการขยายประเทศให้เยอะที่สุด ยังคงเดินหน้า โดยเฉพาะประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีการใช้ออนไลน์เยอะ นั่นคือโอกาสทางธุรกิจของ Eatigo อย่างใน สิงคโปร์ Eatigo ก็ไปล้มเจ้าตลาดที่เป็นเบอร์หนึ่งมาแล้ว และตอนนี้เราใหญ่กว่าเขา 3-4 เท่า

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ “คุณหลุยส์” ให้ความสำคัญ คือ การจับมือกับพันธมิตร อย่างเช่น การร่วมมือกับวงใน ซึ่งมีฐานร้านอาหารที่แข็งแรง การจับมือในลักษณะนี้จะทำให้พลังในการขยายตัวของ Eatigo แข็งแรงยิ่งขึ้น

เปิดวิชันหนุ่มไฟแรง ปั้น Eatigo สู่แอพเบอร์หนึ่ง ด้วย ‘เบสต์ดีล’

ผู้บริหารหนุ่มคนนี้มองว่า ธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร ยังขยายตัวได้อีกเยอะ อย่างในประเทศไทย มูลค่าอุตสาหกรรมอาหารกว่า 7-8 แสนล้านบาท ยังเป็นโอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับร้านอาหารอีกมาก เมื่อเทียบกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จากกลุ่มคนที่ไม่เคยใช้บริการจองร้านอาหารผ่านแอพพลิเคชัน ที่เดิมมีแต่เด็กรุ่นใหม่ ปัจจุบัน เริ่มขยายไปสู่กลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ตลาดร้านอาหารมีการแข่งขันกันสูง แต่ยังเติบโต เพราะยังไงๆ คนก็ยังต้องไปกินข้าว ตรงนี้มีช่องว่างของตลาด สำหรับคนที่อยากออกมาทานข้าวนอกบ้าน การเติบโตจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ยังมีเข้ามาเรื่อยๆ เพราะยังมีคนใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาใช้ออนไลน์ และการผนึกกันระหว่าง Eatigo และวงในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความตื่นตัวให้ตลาด”

“หลุยส์” แชร์ข้อมูลอีกว่า ในกรุงเทพ Eatigo แข็งแรงมาก โรงแรม 80-90% อยู่ในแพลตฟอร์มของเขา แต่ยังมีอีก 20% ของร้านอาหาร ที่ไม่สน tool ใหม่ๆ แบบนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นโอกาสในการขยายตลาดอีกเช่นกัน

เพราะฉะนั้น ผู้บริหารหนุ่นคนนี้จึงเชื่อว่า โอกาสทางธุรกิจของ Eatigo ยังมีอีกมาก และถือเป็นความโชคดี ที่เขาสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้เร็ว ทำให้ตลาดของเขาเปิดกว้างขึ้น

สำหรับตลาดเมืองไทย และโอกาสของสตาร์ตอัพทั้งหลาย ที่จะอยู่รอดและเติบโต เรื่องนี้ “หลุยส์” มองว่า กติกาของภาครัฐควรจะแฟร์กับสตาร์ตอัพไทยมากกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ควรให้เท่าเทียมกับต่างชาติ ด้วยกฎหมายที่ค่อนข้างเก่า และผูกขาด กฎกติกาสำหรับนักลงทุน ยังไม่เอื้อต่อสตาร์ตอัพไทยสักเท่าไร ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชน สถาบันการเงิน ก็ควรต้องเอื้อต่อการเติบโตและการอยู่รอดของสตาร์ตอัพไทยด้วย

“ตอนนี้เราพยายามก้าวกระโดดไปสู่ประเทศที่เจริญ เช่น สิงคโปร์ แต่ถ้านโยบายไม่เอื้อ มันก็ยิ่งทำให้เราลำบาก มันควรทำให้การแข่งขัน มีความเท่าเทียมกัน ต้องแฟร์ ถ้าอยากให้ไทยโต เมื่อให้อินเซนทีฟเขาแล้ว ก็ต้องเอื้อของไทยด้วย”

อย่างน้อยๆ ก็เพื่อผลักดันให้สตาร์ตอัพไทย ไปไกลถึงระดับยูนิคอร์นได้เสียที

หน้า 22-23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,526 วันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เปิดวิชันหนุ่มไฟแรง ปั้น Eatigo สู่แอพเบอร์หนึ่ง ด้วย ‘เบสต์ดีล’