บัตรเดบิตเดือด อัดโปรดุ

หนึ่งในยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (อี-เพย์เมนต์)ของรัฐบาลคือ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้บัตรเดบิตแทนเงินสด รวมถึงส่งเสริมให้ร้านค้าติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อีดีซี) เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิต ส่งผลยอดบัตรเดบิตเพิ่มเป็น 57.42 ล้านใบ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561

นายอมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มการใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2562 ธนาคารมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตรวม 8.9 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 26% หรือ 2.3 หมื่นล้านบาทใช้จ่ายผ่านออนไลน์ ขณะที่การถอนเงินสดอยู่ที่ 580 ล้านรายการ แม้จะไม่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณถอนเงินสดลดลง 10% หรือราว 2 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ปีที่ผ่านมา ธนาคารทยอยออกหน้าบัตรเดบิตใหม่มากขึ้น เพื่อเจาะลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็น New to KBANK เพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น บัตร Journey เน้นท่องเที่ยว เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตสูง แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้ คาดว่าภายใน 1 ปี จะมียอดสมัคร 3 แสนใบเช่นเดียวกับบัตรเดบิต MadCard ที่เน้นกลุ่มซื้อขายออนไลน์ หรือล่าสุดบัตร Blackpink ที่ตั้งเป้ายอดสมัคร 1 ล้านใบ

อมร สุวจิตตานนท์

“แต่ละปีจะมีบัตรเดบิตใหม่เฉลี่ย 2.5 ล้านใบ จากปัจจุบัน 13 ล้านใบ โดย 70-80% เป็นบัตรที่ชำระเงินแบบไร้สัมผัส หรือ Contactless มากขึ้น ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้คนที่มีบัตรแถบแม่เหล็กมาเปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ดแทน เราจึงหันมาออกบัตร Contactless มากขึ้น เพราะเหมาะกับการทำธุรกรรมที่ต้องการความรวดเร็ว และวงเงินไม่สูงมากเฉลี่ยไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ”

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์ตลาดบัตรเดบิตจะเน้นกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตแทนเงินสดในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น โดยเน้นใน category ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตไทยพาณิชย์ปีนี้เพิ่มขึ้น 18% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้จ่ายผ่านออนไลน์(online spending)ที่มียอดเพิ่มขึ้นจากเดิม 43% สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งธนาคารจะยังคงสานต่อกลยุทธ์นี้ในปี 2563

ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าบัตรเดบิตทั้งสิ้น 12 ล้านใบและมียอด active มากกว่า 90% ซึ่งปีนี้ออกบัตรใหม่ 2 ล้านบัตร ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านการรูดซื้อสินค้าและบริการของบัตรเดบิตอยู่ที่ 8% ของธุรกรรม เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นเม็ดเงินมากกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท เพราะมีการปรับข้อเสนอให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายและบุกตลาดออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ยอดการกดเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มของบัตรเดบิตยังมีสัดส่วนสูงถึง 92% ของธุรกรรมทั้งหมด เพิ่มขึ้น 15% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ยังมีความต้องการใช้เงินสดอยู่

“เราศึกษารายละเอียดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและเน้นไปที่การนำเสนอ integrated solution ที่ตอบโจทย์ทางการเงินของลูกค้ามากกว่าการออกหน้าบัตรใหม่เพียงอย่างเดียว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละ segment”

นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Wealth Product Development บมจ.ธนาคารธนชาต กล่าวว่า แนวทางการขยายฐานลูกค้าบัตรเดบิต จะเห็นว่าหลายธนาคารหันมาจับกลุ่มลูกค้า New Gen มากขึ้น ซึ่งบัตรเดบิตจะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ธนาคารเสนอพ่วงกับบัญชีเงินฝาก โดยใส่สิทธิประโยชน์และโปรโมชันเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ใช้มากขึ้น รวมถึงสถาบันการเงินอาจจะนำเสนอบัตรเดบิตที่เฉพาะกลุ่มเป้าหมายหรือตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม

ธนชาตอยู่ระหว่างศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ดูภาวะตลาดและรวม ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเห็นการออกหน้าใบที่เป็นลายคาแรกเตอร์ หลังจากได้ทำมาแล้ว 6 หน้าบัตรและมี ยอดผู้ใช้ 7-8 หมื่นใบจากฐานลูกค้า บัตรเดบิตที่มี 1.6 ล้านใบ โดยจะมีลูกค้าบัตรเดบิตรายใหม่เฉลี่ย 5.5 แสนใบต่อปีคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ฐาน บัตรเดบิตจะจบที่ 1.7 ล้านใบ

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,526 วันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2562