ฮือต้านแบน 3 สารพิษ & ผลประโยชน์ทับซ้อน

26 พ.ย. 2562 | 11:00 น.

คอลัมน์ที่นี่ไม่มีความลับ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3526 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.2562 โดย... เอราวัณ

 

ฮือต้านแบน 3 สารพิษ

           &

ผลประโยชน์ทับซ้อน

 

     มีการเคลื่อนไหวต้านการแบนใช้ 3 สารพิษ ที่จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ โดยกลุ่มเกษตรกร รวมตัวต่อต้าน และกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังเสนอเรื่องการเลื่อนบังคับใช้ออกไปอีก 120 วัน อีกทั้ง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย ควบคุมวัตถุอันตราย ยังลังเลที่จะเซ็นประกาศแบน 3 สารพิษ ที่จะให้มีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุผล 3 ประการ

     1.คือกระทบกับเกษตรกรระดับล่าง ที่ยังไม่มีการนำเสนอสารกำจัดศัตรูพืชมาทดแทนที่ดีกว่าและราคาไม่สูงกว่าตัวเดิม 2.กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่นอกจากการไม่นำเข้าสารดังกล่าว อาจจะลามไปถึงการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร ของประเทศที่ใช้สาร 3 ตัวนี้ ทั้งสหรัฐฯ จีน ยังใช้สารทั้ง 3 ตัวนี้ และประการสุดท้ายคือผลประโยชน์ทับซ้อน ที่อาจจะมีขึ้นเมื่อใช้สารชีวภัณฑ์ตัวอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามที่มีการเสนอข่าวว่า บริษัทที่ผลิตสารชีวภัณฑ์มาแทนที่ 3 สารที่จะถูกห้ามจำหน่ายมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ และมีสายสัมพันธ์กับ “ผู้มีบารมีสูงสุด” ของพรรคการเมืองหนึ่ง

 


 

 

ฮือต้านแบน 3 สารพิษ & ผลประโยชน์ทับซ้อน

 

     การผลักดันของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข และ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 2 รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ที่จะให้แบน 3 สารเคมีดังกล่าวจึงยังไม่บรรลุผลสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าจะยกคำ “ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล” เป็นเงื่อนไขในการผลักดันเรื่องการแบน 3 สารนี้อีกหรือไม่ หลังจากยกมาครั้งหนึ่งในช่วงต้น ยก 2 ของการแบน 3 สาร จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 

     ผลประโยชน์ก้อนโตในทางธุรกิจหากยกเลิก 3 สารดังกล่าว และหาสารตัวอื่นมาทดแทน ดูได้จากมูลค่าทางการตลาดของ 3 สาร ที่ใช้กันในแวดวงการเกษตรของไทย ที่ตกราวปีละกว่า 36,000 ล้านบาท จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครบางคนคิดอยากจะครอบครองเป็นเจ้าตลาด ในการกำจัดศัตรูพืช เพราะการหากินกับเกษตรกรเป็นความชำนิชำนาญของใครบางคน ไม่เชื่อลองไปค้นคดีจัดซื้อจัดจ้าง “กล้ายาง 90 ล้านต้น” ที่พบพิรุธในการจัดซื้อ นั่นก็หากินบนความหวังของเกษตร เป็นเพราะผลประโยชน์มันเยอะใช่หรือไม่ กระทรวงนี้จึงมีพรรคการเมือง อาสาส่งตัวแทนมาเป็นเสนาบดีกันเยอะ จนห้องทำงานรัฐมนตรีไม่พอ ต้องแย่งกันอุตลุด ทำให้ข้าราชการทำห้องให้รัฐมนตรีเพิ่ม เพราะกระทรวงนี้มีเสนาบดีตั้ง 4 คน

 

ฮือต้านแบน 3 สารพิษ & ผลประโยชน์ทับซ้อน

 

     ทีนี้ถ้าการแบน 3 สารเคมีสะดุดลง ยังไม่สามารถมีผลบังคับใช้ “พรรคจอมขู่” จะทบทวนการร่วมรัฐบาลอย่างที่หัวหน้าพรรค “ปากไว” ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้มั้ย ต้องจับตามอง เพราะในรัฐบาล ระอากับพฤติกรรมอาศัยเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล ขู่โน่น ขู่นี่ ตลอดเวลา ต้องบอก ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าต้องอยู่อย่างขมขื่น ตกเป็นเบี้ยล่างพรรคการเมืองแบบนี้ ล้มกระดานเลือกตั้งใหม่ดีกว่า เอาให้เข็ดเสียที...