ทิ้งหุ้น พลังงาน  ตุนเงินซื้อIPO  ‘ซาอุดีอารามโก’

25 พ.ย. 2562 | 03:06 น.

นักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ตเตรียมเงินซื้อหุ้นไอพีโอ “ซาอุดี อารามโกบริษัทนํ้ามันยักษ์ใหญ่ของซาอุฯ โบรกฯชี้กองทุนเริ่มขายหุ้นพลังงานไทยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และรองรับสัดส่วนดัชนี MSCI ที่จะเปลี่ยนแปลงไป

หุ้นกลุ่มพลังงาน เป็นกลุ่มที่มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยมากที่สุด จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ที่อยู่ที่ประมาณ 26% ของมาร์เก็ตแคป รวม โดยปัจจุบันราคาหุ้นผันผวนในขาลงเป็นส่วนใหญ่ รับประเด็นทั้งราคานํ้ามันดิบโลก การติดตามผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิต นํ้ามันส่งออก (โอเปก) ว่าจะมีการขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตหรือไม่ และล่าสุดกับการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของบริษัทนํ้ามันขนาดใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างซาอุดี อารามโก ประมาณ 1.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คาดว่ามูลค่ากิจการอยู่ในช่วง 1.6 - 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 51 ล้านล้านบาท) และมีเป้าหมายระดมทุนอยู่ที่ 2-4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 6 แสนล้าน- 1.2 ล้านล้านบาท)

ทิ้งหุ้น พลังงาน  ตุนเงินซื้อIPO  ‘ซาอุดีอารามโก’

ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นซาอุดี อารามโก จะเข้าซื้อขายได้ในเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการจองซื้อกำหนดส่งแบบฟอร์มเสนอซื้อสำหรับนักลงทุนต่างชาติ คือ วันที่ 4 ธันวาคม 2562 ส่วนนักลงทุนรายย่อย ภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 นอกจากนี้ MSCI ได้มีการประกาศว่าจะนำหุ้นซาอุดี อารามโก เข้ามาคำนวณในดัชนีเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 หากมีการเริ่มซื้อขายภายในวันที่ 12 ธันวาคม2562 แต่หากมีการซื้อขายหลังวันที่ 12 ธันวาคม 2562 จะเลื่อนเป็นหลังวันที่ 5 มกราคม 2563

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เริ่มเห็นการเร่งตัวปรับพอร์ตเตรียมเงินซื้อหุ้นซาอุดี อารามโก หลังจากพบว่าในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นเพียง 0.97% น้อยกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอยู่มากที่ให้ผลตอบแทนถึง 2.34% ซึ่งคาดว่ามาจากกองทุนต่างประเทศอยู่ในช่วงเตรียมเงินบางส่วนมาลงทุนในหุ้นไอพีโอของซาอุดี อารามโก รวมถึงรองรับสัดส่วนดัชนี MSCI ที่จะเปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าหุ้นนํ้ามันในหลายๆ ประเทศปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคานํ้ามันในช่วงนี้ สะท้อนจากผลตอบแทนดัชนี MSCI ACWI Energy Sector ให้ผลตอบแทนเพียง 1.68% น้อยกว่าราคานํ้ามันที่ปรับตัวขึ้นถึง 4.39% ขณะเดียวกันหุ้นนํ้ามันของไทยพบว่าเริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติที่เร่งตัวชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้

โดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่อยู่ในดัชนี MSCI เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT), บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC), บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP), บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) (IVL), บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) ถูกขายสุทธิเกือบทุกบริษัท

 

ราคานํ้ามันที่ยังผันผวนจากหลากหลายประเด็น ทั้งความไม่แน่นอนในการสงบศึกสงครามทางการค้าสหรัฐฯกับจีน รวมถึงกลุ่มโอเปกกับนอกกลุ่มโอเปก จะจับมือกันลดกำลังการผลิตหรือไม่ ที่สำคัญอาจเห็นการเตรียมปรับพอร์ต ของกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนตามดัชนี MSCI โดยเฉพาะหุ้นพลังงานที่อยู่ในดัชนี MSCI ในช่วงที่เหลือของปี เช่น PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, IVL, BANPU และ IRPC ก็มีความเสี่ยงเป็นลำดับต้นๆ ที่จะได้รับผลกระทบ จากการจองซื้อหุ้นไอพีโอของซาอุดี อารามโก พร้อมกับรองรับสัดส่วนของดัชนี MSCI ที่เปลี่ยน แปลงไป จึงน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทย

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศ ไทย) ระบุว่า จากวันนี้ไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม จะเป็นช่วงจองซื้อหุ้นไอพีโอของ 2 บริษัทใหญ่ คือ อาลีบาบา ในตลาด หลักทรัพย์ฮ่องกง และซาอุดี อารามโก ในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดีอาระเบีย โดยวงเงินไอพีโอสูงถึง 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้หุ้น PTT และ PTTEP ถูกนักลงทุนต่างประเทศขายออกมา

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,525 วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562

                  ทิ้งหุ้น พลังงาน  ตุนเงินซื้อIPO  ‘ซาอุดีอารามโก’