บลจ.ยูโอบีเปิดตัวกองทุน ‘บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์’

22 พ.ย. 2562 | 05:33 น.

บลจ. ยูโอบี  ชี้ตลาดหุ้นผันผวนสูง แนะกระจายพอร์ตลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก รุกเปิดตัว ‘กองทุนเปิด บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์’ (BPLUS) เตรียมขายIPO 22 – 29 พ.ย.นี้ ชูจุดเด่นกองทุนรวมผสมแบบ Fund of Funds กระจายลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs ต่างประเทศ และ กองทุนอสังหาฯไทย

 

นางสาวรัชดา   ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ UOBAM  เผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกที่ชะลอตัว ผลกระทบสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯที่ยืดเยื้อ ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในช่วงวัฎจักรตอนปลายของการเติบโต  การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยการอัดฉีดสภาพคล่องและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่การลงทุนในหุ้นมีความผันผวนสูง จึงแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจและลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน  รวมถึงลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs ที่สามารถให้โอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากเงินปันผล ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ

จากปัจจัยดังกล่าวจึงเสนอขาย ‘กองทุนเปิด บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์’ (BPLUS) หรือ “Brilliant Plus Fund (BPLUS)” ซึ่งเป็นกองทุนเปิดประเภทกองทุนรวมผสมแบบ Fund of Funds ที่มีการกระจายการลงทุนในกองทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นกองทุนรวมผสมที่ปัจจุบันคาดการณ์สัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั่วโลกประมาณ 80% และอีก 20% ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ REITs เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้น

บลจ.ยูโอบีเปิดตัวกองทุน ‘บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์’

สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ สัดส่วนประมาณ 80% ประกอบด้วย การลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุน คือ 1. กองทุน United SGD Fund (Class A-Acc USD (Hedged)) ในสัดส่วน 32.5% ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management, ประเทศสิงคโปร์ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและเงินฝากของสถาบันการเงิน ซึ่งกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดี และมีการลงทุนในตราสารหนี้ในยุโรป สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยให้ผลตอบแทนนับจากนับจากเดือนมกราคม – กันยายน 2562 (Year to Date) 3.49% 

2.กองทุน Manulife Asia Pacific Investment Grade Bond Fund (Class A-Acc) ในสัดส่วน 32.5% บริหารงานโดย Manulife Investment (ประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ (ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) คุณภาพระดับ Investment Grade และปรับเปลี่ยนระยะเวลาลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นในกรอบ 1- 5 ปี เพื่อรับประโยชน์จากวัฎจักรอัตราดอกเบี้ยในแต่ละช่วง โดยให้ผลตอบแทนนับจากเดือนมกราคม – กันยายน 2562 (Year to Date) 6.27% 

ส่วนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REITs อีกประมาณ 20% ประกอบด้วย 1. การลงทุนใน กองทุน UBS (Lux) Real Estate Fund Selection-Global (class I-96 EUR Acc) ในสัดส่วนประมาณ 13% บริหารงานโดย UBS ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนนี้จะมีการกระจายการลงทุนไปยังกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวม 43 กองทุนทั่วโลก  ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 5,000 โครงการ และมีที่มาจากรายได้ผู้เช่าในโครงการกว่า 20,000 ราย และ 2. การเข้าลงทุนใน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs  และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในไทย โดยมี บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) เป็นผู้บริหารจัดการ อีกประมาณ 7%

บลจ.ยูโอบีเปิดตัวกองทุน ‘บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์’

ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าลงทุนในตราสารหนี้เอกชนไทยที่มีคุณภาพ และพันธบัตรรัฐบาลไทยประมาณ 15% โดยสัดส่วนการลงทุนในกองทุนปลายทาง จะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละช่วงตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

กองทุน BPLUS มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุน CIS กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุน Private Equity หรือกองทุน ETF ทั้งใน และ/หรือ ต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยจะเข้าลงทุนในกองทุนปลายทาง เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และในขณะเดียวกันจะลงทุนในต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  โดยส่วนของการลงทุนในต่างประเทศมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

โดยมีกำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 22 – 29 พฤศจิกายน 2562  มีทุนจดทะเบียน 20,000 ล้านบาท อัตราความเสี่ยงระดับกลาง (ระดับ 5) และไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ โดยเสนอขายผ่าน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด และบลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด มีให้เลือกทั้งกองประเภทที่มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (BPLUS) และแบบรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (BPLUS-R) และหลังช่วง IPO กองทุน BPLUS สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุน