หวั่นต่างชาติย้ายฐาน ส่งออกปี 63 ยังหืดจับ     

25 พ.ย. 2562 | 00:00 น.

เอกชนมองปี 2563 ส่งออกไทยยังหืดจับ สงครามการค้า บาทแข็งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก จับตากลุ่มทุนไทย-เทศ หนีไปลงทุนเวียดนามมากขึ้น จากได้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพิ่ม

 

การส่งออกไทยปี 2562 เข้าสู่โค้งสุดท้ายยังไม่เห็นสัญญาณบวก ตัวเลข 10 เดือนแรกยังติดลบที่ 2.3% จากปัจจัยลบสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน 2 มหาอำนาจเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของโลกยังไม่ลดลาวาศอกส่งผลเศรษฐกิจการค้าโลกซบเซา เงินบาทยังแข็งค่าทุบซํ้าความสามารถในการแข่งขันวูบ

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า แนวโน้มการค้าโลกปี 2563 ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การนำเข้าของแต่ละประเทศลดลง เฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ผลิตเพื่อส่งออกให้กับจีนและสหรัฐฯ อาจต้องเหนื่อยมากขึ้น ในปีหน้าอาจได้เห็นโรงงานอุตสาหกรรมมีการย้ายฐานการผลิตไปในโซนแถบประเทศอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าไทยและได้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพิ่มจากเอฟทีเอเวียดนาม-สหภาพยุโรป และความตกลง CPTPP

 

ขณะที่การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อาจจะไม่คึกคักเพราะสินค้าหรืออุตสาหกรรมการผลิตของไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้อยู่ในอีอีซี ขณะที่อีอีซีเน้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมขั้นสูง ประกอบกับไทยจะถูกสหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี) 573 รายการในปีหน้า อาจทำให้ความน่าสนใจมาลงทุนในไทยลดลงได้

ปีหน้ายังมองไม่เห็นปัจจัยบวก เอกชนคาดหวังว่าค่าบาทจะกลับไปที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากยังแข็งค่าเช่นปัจจุบันสินค้าไทยจะขายยากขึ้น

 

 

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปีหน้าการส่งออกข้าวยังต้องเหนื่อยเช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบกับเงินบาทของไทยยังผันผวนในทิศทางที่แข็งค่า กระทบราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง คู่ค้าหันไปซื้อข้าวของคู่แข่งมากขึ้น เมื่อผู้บริโภคเคยชินกับการบริโภคข้าวของคู่แข่ง ทำให้ยากที่ผู้ซื้อจะกลับมาซื้อข้าวไทย

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,525 วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562

หวั่นต่างชาติย้ายฐาน  ส่งออกปี 63 ยังหืดจับ