Digital Platform ยอดนิยมของธุรกิจครอบครัว

25 พ.ย. 2562 | 04:27 น.

คอลัมน์บิสิเนส แบ็กสเตจ โดย ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล
คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ([email protected])

 

ปัจจุบันธุรกิจครอบครัวกำลังอยู่ในยุคของการปฏิวัติดิจิทัล (digital revolution) ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายหลายประการ จึงมีหลายคำถามที่ธุรกิจครอบครัวกำลังพูดถึงเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น อาทิ มีวิธีอย่างไรในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้ได้มากที่สุดและปกป้องแบรนด์เมื่อใช้แพลตฟอร์มการตลาดที่แตกต่างกัน ลูกค้าใช้แพลตฟอร์มใดบ้างและใช้งานอย่างไร และการเป็นธุรกิจครอบครัวสามารถสร้างความแตกต่างในการทำการตลาดหรือไม่ เป็นต้น

 

การวิจัยล่าสุดที่ดำเนินการโดย Family Business United ทำการสำรวจธุรกิจครอบครัวจำนวน 167 ราย ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายหลายประการจากการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและสำหรับโลกดิจิทัลและการพลิกผันทางดิจิทัลที่อาจก่อให้เกิดเป็นภัยคุกคามได้ พบว่ามีเพียง 9% ของผู้ถูกสำรวจเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นภัยคุกคาม ขณะที่อีก 10% ไม่แน่ใจว่าจะเป็นภัยคุกคามหรือโอกาสที่ดีกันแน่ และเมื่อถูกถามว่ามีแผนงานที่เหมาะสมในการจัดการและเพิ่มกลยุทธ์ดิจิทัลแล้วหรือยัง 76% ตอบว่ามีแล้ว ขณะที่อีก 7% ไม่แน่ใจว่าแผนงานของตนเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ และ 17% กล่าวว่ายังไม่มีแผนใดๆ ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจครอบครัวมีวิธีที่จะเพิ่มโอกาสและลดภัยคุกคามต่อธุรกิจของตน

 

Digital Platform ยอดนิยมของธุรกิจครอบครัว

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับกลุ่มผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่กว้างขึ้นยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและบริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายทางการตลาดดิจิทัลคือ การเข้าใจผู้ชม รู้ว่าลูกค้าใช้แพลตฟอร์มใด เพื่อกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์ดิจิทัลของตนได้ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะแต่ละแพลตฟอร์มได้รับความนิยมแตกต่างกัน

 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องระวังคือต้องนำเสนอให้ถูกที่และมีกลยุทธ์การตลาดที่ครบวงจรตรงกับความต้องการทางธุรกิจ ซึ่งจากการสำรวจนับว่าเป็นเรื่องดีที่พบว่าธุรกิจครอบครัวเกือบทุกแห่งต่างมีเว็บไซต์ (97%) เป็นของตัวเอง แต่ก็ยังมีอีกเกือบ 4% ที่ไม่มีเว็บไซต์และคุณภาพเว็บไซต์ของบางบริษัทก็ยังด้อยกว่าบริษัทอื่นๆอยู่มาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เรื่องของการตลาดยังคงเป็นประเด็นสำคัญของธุรกิจครอบครัวในทุกวันนี้

 

นอกจากนี้เมื่อสอบถามถึงความนิยมในการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆของบรรดาธุรกิจครอบครัวก็พบว่า Facebook (85%), Linkedin (82%)และ Twitter (81%) นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากใกล้เคียงกัน ขณะที่ Instagram (61%) และ YouTube (44%) ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากวิดีโอกลายเป็นสื่อการตลาดที่สำคัญมากขึ้น ตามมาด้วย Blog (42%) What’s App (31%) และPinterest (18%) (ภาพที่ 1) อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ประสิทธิผลดีที่สุด ควรจะต้องมีการทบทวนแนวทางการดำเนินการเพื่อวัดความสำเร็จและผลตอบแทนตามเวลาที่ใช้ในแต่ละแพลตฟอร์มว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่และเพื่อทบทวนแนวทางการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เนื่องจากความนิยมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามกระแสของเทคโนโลยีในปัจจุบันนั่นเอง

 

ที่มา: Family Business United. 2019. THE FAMILY BUSINESS Survey 2019: Determining the UK family business agenda. Available: www.familybusinessunited.com.

หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3525 ระหว่างวันที่ 24 - 27 พฤศจิกายน 2562