20 หอการค้า ปณิธานร่วม‘พลิกอีสาน’
20 หอการค้าดาหน้าลุย‘เกษตร-เที่ยวชุมชน’
รายงาน : โดย ยงยุทธ ขาวโกมล
เศรษฐกิจไทยปีนี้ เติบโตตํ่ากว่าเป้าและคาดว่าจะลากยาวถึงปีหน้า ประธานหอการค้าอีสานประกาศปี 2563 หอการค้าทั้งภาคเดินหน้าแผนปฎิบัติการ ร่วมกับคนอีสาน 20 ล้านคนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้เพิ่ม เสริมความแข็งแกร่งให้ท้องถิ่นและประเทศ ควบคู่กับเร่งพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ให้พร้อมก้าวมารับมือความเปลี่ยนแปลง
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ในฐานะประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการหอการค้าภาคฯ ที่จังหวัดนครพนมที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นพ้องกันให้หอการค้าจังหวัดทุกจังหวัด นำแผนงานที่วางเอาไว้ขึ้นมาปฏิบัติให้เกิดผลจริงจัง เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นชัดของหอการค้ายุคใหม่ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ ที่จะส่งเสริมธุรกิจฐานรากและสร้างรายได้เข้าสู่ท้องถิ่น และสร้างความมั่นคงแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนและประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรแวดวงหอการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ให้มีความพร้อมในการก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคต
เนื่องจากว่าสถานการณ์ของเศรษฐกิจ ทั้งภายนอกภายในมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแล้ว บริบทด้านต่างๆ ก็หมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หอการค้าทุกจังหวัดจึงจะต้องลงมือปฏิบัติตามแผนงานต่างๆ ที่วางไว้ ให้ทันกับสถานการณ์ที่เหมาะสมและเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ลงไปสู่ฐานรากและชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งขึ้น
ประธานหอการค้าภาคอีสานกล่าวอีกว่า เป้าหมายร่วมในการผลักดันการปฏิบัติตามแผนงานของหอการค้าจังหวัดต่างๆ คือมุ่งสู่การเพิ่มความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตร ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจที่สำคัญของภาคอีสาน ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งก็เป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ทั้งนี้พื้นที่ของภาคอีสานในกรณีดังกล่าวนั้น ถือว่ามีข้อได้เปรียบและจุดแข็งพอสมควร เนื่องจากว่าภาคอีสานมีโครงข่ายระบบการขนส่งหรือโลจิสติกส์ที่ดี การเดินทางสัญจรหรือการขนส่งมีความสะดวกสบายและเข้าถึงแทบทุกพื้นที่
ควบคู่กับการผลักดันแผนสู่ภาคปฏิบัติการ คือการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ เพื่อให้หอการค้าทุกจังหวัดของภาคอีสานพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ ในแต่ละหอการค้ามีโครงการพัฒนาบุคลากรนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่เรียกกันว่า YEC ซึ่งบุคลากรกลุ่มนี้ ถือเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในขณะนี้และในอนาคตของทุกท้องถิ่นและของประเทศ ที่จะเข้ามารับภารกิจต่อในห้วงของการเปลี่ยนแปลงในบริบทของประเทศและภูมิภาค ทั้งขอบเขตของอาเซียนและของเอเชีย ดังที่จะเห็นได้ว่าในระยะที่ผ่านมานี้ วงการอุตสาหกรรม ธุรกิจน้อยใหญ่ทั้งหลาย ได้มุ่งหน้าเคลื่อนทุนสู่อาเซียน ซึ่งอาเซียนเองก็มีการปรับตัว ไทยเองก็จะต้องหันมาดูและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
หอการค้าแต่ละจังหวัดต้องเร่งพัฒนายกระดับบุคลากรกลุ่มนี้ เปิดโอกาสให้เข้าร่วมและเป็นกำลังผลักดันแผนงานต่างๆ ของหอการค้า รวมทั้งในแผนปฏิบัติการเพื่อร่วมขับเคลื่อนสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนและท้องถิ่น ขณะเดียวกันจะช่วยพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติ ให้มีความสามารถ ความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันที่นับวันว่าจะรุนแรง รวดเร็วและหลากหลายวิธีการ เพื่อให้เป็นทัพนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะกระโดดเข้าสู่สนามรบทางการค้าทางธุรกิจได้ต่อไป
“การทำงานเราจะแบ่งกลุ่มกันทำแบบบูรณาการร่วมกับทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อให้การปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดประสิทธิภาพที่เข้มแข็ง ยั่งยืน ที่สำคัญระหว่างดำเนินการก็จะต้องมองไปข้างหลัง เพื่อไม่ให้มีการทิ้งใครไว้ แต่จะต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง มั่นคง และแข็งแรง โดยมีเป้าหมายว่า ในปีหน้าหรือปีค.ศ. 2020 หอการค้าจังหวัดในภาคอีสาน 20 แห่ง คนภาคอีสาน 20 ล้านคน มาร่วมมือกันผลักดันขับเคลื่อนภาคอีสาน ก็จะทำให้เศรษฐกิจของภาคอีสานเพิ่มมูลค่าขึ้น สร้างรายได้ สร้างความแข็ง แกร่งเพิ่มให้กับท้องถิ่นและประเทศ พร้อมที่จะรองรับด้านการท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่พร้อมที่จะผลิตอาหารให้กับประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน” นายสวาท กล่าวยํ้าส่งท้าย
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,524 วันที่ 21 - 23 พฤศจิกายน 2562
