ปั๊มนํ้ามันแข่งดุจับมือพันธมิตรดัน‘นอนออยล์’

23 พ.ย. 2562 | 01:00 น.

จับตากลุ่มทุนปั๊มนํ้ามัน เร่งสร้างฐานรายได้ธุรกิจ “นอน ออยล์” เพิ่ม หวังบาลานซ์ความเสี่ยง หลัง “นํ้ามัน” ทำกำไรลด ขณะที่พฤติกรรมคนรุ่นใหม่เปลี่ยน เน้นสะดวกสบาย “คาลเท็กซ์” มั่นใจ 3 ปีดันรายได้เพิ่มกว่า 1 เท่าตัว ด้าน ปตท. เตรียมสยายปีกทั้งใน-ต่างประเทศ

 

ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจปั๊มนํ้ามันปรับยุทธศาสตร์ในการรุกธุรกิจที่ไม่ใช่นํ้ามัน หรือ นอน ออยล์ ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก การเปิดร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร จุดบริการต่างๆ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการปรับตัวในครั้งนี้มาจากธุรกิจนํ้ามันที่มีความผันผวนสูงมาก และยังต้องอิงอยู่กับราคาตลาดโลกมาตรการภาครัฐที่เข้ามาควบคุม และมีกำไรขั้นต้นก็เพียงแค่ 6-7% ขณะที่ธุรกิจนอน ออยล์ กลับมีความมั่นคงมากกว่าในระยะยาว

 

จากจุดเริ่มต้นของปตท. ที่หันมาสร้างโพสิชันนิงให้เป็นสถานีบริการนํ้ามันครบวงจร ไม่ใช่เพียงแค่จุดเติมนํ้ามันอีกต่อไป แต่เป็นสถานที่ที่สามารถตอบไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ยุคใหม่ได้อย่างครบครัน ไม่ต่างอะไรกับการเป็น “คอมมิวนิตี มอลล์” จนประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ธุรกิจนอน ออยล์ทำรายได้ดี และมีทิศทางที่เติบโตขึ้น สถานีบริการนํ้ามันอื่นจึงขยับตัว พร้อมปรับแนวธุรกิจ

 

วันนี้แม้นอน ออยล์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสถานีบริการนํ้ามัน เพราะเริ่มขยับปรับตัวกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของแต่ละบริษัทว่าใครจะปรับมาก ปรับน้อย แต่ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่มาใช้บริการ ตลอดจนการสร้างรายได้ที่สูงขึ้นจากกลุ่มธุรกิจนอน ออยล์ ทำให้ผู้ประกอบการยังมองเป็นโอกาส โดยขึ้นอยู่กับทำเล ที่ตั้งเป็นหลัก

 

นายชุตินธร ปักเข็ม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประเทศไทย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีบริการนํ้ามันภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าวว่า วันนี้บริษัทมีรายได้จากกลุ่มนอน ออยล์ คิดเป็นสัดส่วน 20% และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 30-50% ภายใน 3 ปีนับจากนี้

 

ส่วนแผนงานในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย คือการสร้างให้คาลเท็กซ์ เป็นสมาร์ท สเตชัน ที่ครอบคลุมทั้งสมาร์ทเซอร์วิส, สมาร์ทดิจิทัลแพลตฟอร์ม, สมาร์ทพาร์ตเนอร์ชิพ และ สมาร์ท โปรดักต์

ปั๊มนํ้ามันแข่งดุจับมือพันธมิตรดัน‘นอนออยล์’

“ตามแผนงาน 5 ปี (ปี 2561-2565) คาลเท็กซ์จะใช้งบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท ในการลงทุนทั้งกลุ่มออยล์ และนอน ออยล์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจ เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว สร้างความคุ้มค่าและความพึงพอใจให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจนอน ออยล์อย่างเต็มรูปแบบ

 

เริ่มตั้งแต่การจับมือกับพรีโม ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ เจ้าของลิขสิทธิ์กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย เปิดร้านกาแฟ “เอ็กซ์เพรสโซ่ บายกลอเรีย จีนส์” (EXPRESSO BY Gloria Jean’s) เสริมทัพในสถานีบริการนํ้ามัน ล่าสุดยังจับมือกับ “ซันร้อยแปด” และ “ฟอร์ท เวนดิ้ง” เปิดให้บริการ “อิ่ม 24 ชม. Vending Box” โดยตั้งจุดเวนดิ้ง แมชีน เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ให้บริการกับลูกค้า ประเดิมสาขาแรกที่ปั๊มนํ้ามันคาลเท็กซ์ สาขาเพชรคลองหนึ่ง และจะขยายเพิ่มเป็น 100 จุดในปี 2565 ควบคู่ไปกับการพลิกโฉมสมาร์ท สเตชัน ที่เริ่มเดินเครื่องไปได้แล้ว 50 แห่ง จากปัจจุบันที่มีสาขารวม 370 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 62 แห่ง 

 

ปั๊มนํ้ามันแข่งดุจับมือพันธมิตรดัน‘นอนออยล์’

“การเสริมแม็กเนตต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย และดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายนํ้ามัน และนอน ออยล์ให้เพิ่มขึ้นด้วย”

 

ขณะที่ ปตท. ซึ่งปัจจุบันเดินหน้าขยายธุรกิจนอน ออยล์ อย่างหนัก โดยมีแบรนด์ คาเฟ่ อเมซอน เป็นหัวหอกหลัก ที่สยายปีกขยายสาขาทั้งในสถานีบริการนํ้ามันปตท.เอง ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า รวมถึงในรูปแบบสแตนด์อะโลน จำนวนมาก ด้วยเพราะเห็นสัญญาณการเติบโตจากกลุ่มนอน ออยล์

 

ปตท. ให้นํ้าหนักในธุรกิจนอน ออยล์อย่างมาก เห็นได้จากยุทธศาสตร์การรุกธุรกิจตามแผน 5 ปี (ปี 2561-2565) ที่จะใช้เงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทในการขยายทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะนอน ออยล์ที่ตั้งเป้าจะขยายแบรนด์ธุรกิจใหม่เพิ่ม ทั้งที่ลงทุนเอง และเป็นพันธมิตรกับแบรนด์อื่น พร้อมผลักดันให้กลุ่มนอน ออยล์ทำกำไรเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30% ในปี 2565

 

ขณะที่นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) กล่าวว่า แนวทางการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในธุรกิจนํ้ามัน และขยายธุรกิจค้าปลีกและต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตจะเน้นรูปแบบการตั้งบริษัทย่อย หรือร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละกลุ่มมาใช้ร่วมกันในการสร้างการเติบโต เบื้องต้นอยู่ระหว่างการจัดทำแผนงาน 5 ปี (ปี 2563-2567) โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้ภายในปีนี้ เพื่อนำไปใช้ตั้งแต่ในปีหน้าเป็นต้นไป

 

“ปัจจุบันมีสถานีบริการนํ้ามันในลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเมียนมา รวมกว่า 280 แห่ง คาดว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 675 แห่ง ส่วนร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในสปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และโอมาน รวมกว่า 200 แห่ง ซึ่งใน 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 700 แห่ง ส่วนร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ กว่า 70 แห่ง ในปัจจุบันจะยังไม่ขยาย แต่จะปรับปรุงรูปแบบใหม่หลังประสบปัญหาเรื่องซัพพลายเชนจำนวนมาก”

ปั๊มนํ้ามันแข่งดุจับมือพันธมิตรดัน‘นอนออยล์’

ขณะที่สถานีบริการนํ้ามันอย่างบางจาก ก็ออกมาประกาศแผนเดินหน้าธุรกิจด้วยการใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทในการขยายกิจการทั้งออยล์และนอน ออยล์ พร้อมกับขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลอีก 200 แห่ง และขยายในสปป.ลาว และกัมพูชาอีก 50 แห่งภายในปี 2565 และลงทุนขยายร้านซูเปอร์มาร์เก็ต SPAR อีก 20-30 แห่งในปีนี้ เช่นเดียวกับพีทีจี ที่ประกาศเดินหน้าธุรกิจนอน ออยล์ ผ่านร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่มีอยู่ 130 แห่ง และตั้งเป้าหมายให้ได้กว่า 1,100 แห่งในปี 2566 พร้อมกับเพิ่มสัดส่วนรายได้จากนอน ออยล์ให้เป็น 60% ด้วย

 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3524 ระหว่างวันที่ 21 - 23 พฤศจิกายน 2562