ยกระดับบ้านหรู  ผ่านไลฟ์สไตล์  ระดับโลก

ผ่ามุมคิด

ถือเป็นการยกระดับวงการบ้านหรูเมืองไทย และตอกยํ้าผู้นำในวงการอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยระดับบนสุด สำหรับกลุ่มบริษัท เค.อี. กรุ๊ปฯ หลังเผยยอดขายมาแรงออกตัวดี สวนภาวะตลาดและเศรษฐกิจรวม สำหรับโครงการบ้านหรูระดับ 6 ดาว ราคาสูง 300 ล้านบาทต่อหลัง “คริสตัล โซลานา” มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท บนแลนด์ลอร์ดสำคัญ “ประดิษฐมนูธรรม ถนนแห่งอนาคต” โดยนางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท เค.อี. ระบุตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 นำไลฟ์สไตล์สู่อสังหาฯ เจาะกลุ่มลูกค้าอัลตร้าลักชัวรี ผ่านกลยุทธ์ “เมื่อบ้านคือการลงทุน”

ยอดขาย 30%

โครงการ คริสตัล โซลานา บนพื้นที่กว่า 31 ไร่ ราคา 65-300 ล้านบาท จำนวน 51 หลัง มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ความโดดเด่นหลายด้าน ด้วยแนวคิดการออกแบบระดับโลก คัดสรรสังคมผู้อยู่อาศัย ความหรูหราระดับ 6 ดาว เป็นโครงการที่บริษัทนำไลฟ์สไตล์เชิงสังคมระดับบนมาพัฒนาใส่ไว้ในโครงการที่อยู่อาศัยแบบเต็มตัวและขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในตลาด ผ่านการจัดสรรฟังก์ชัน, การเลือกใช้วัสดุ, การดีไซน์สถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาส และคลับเฮาส์ที่มีขนาดใหญ่และครบครันดีที่สุดในเมืองไทย เพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มอยู่ร่วมกันหลายเจเนอเรชัน และใช้กลยุทธ์ รูปแบบบ้านสั่งสร้าง เลือกที่ดิน - แบบบ้านเองได้ความต้องการ หรือสั่งต่อเติมเองได้ ทำให้หลังจากเปิดตัวโครงการไปเพียง 1 ปี โดยไม่มีบ้านตัวอย่างอย่างเป็นทางการ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มาจากการบอกต่อจากลูกค้าในโครงการเก่าๆ เช่น คริสตัล พาร์ค หรือ แกรนด์ คริสตัล เข้ามาต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์ “คริสตัล” อย่างชัดเจน

“เป็นโครงการเดียวที่มูลค่าการซื้อ-ขาย จริงแพงที่สุด ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 30 % จาก 51 หลัง ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มเจ้าของธุรกิจ ถือว่าเป็นที่พอใจสำหรับเราเพราะไม่มีคู่แข่ง และคาดจะปิดการขายได้ทั้งหมดในช่วงปี 2564”

ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์

ตลาดบ้านหรู

มองว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ค่อนข้างเป็นไปอย่างชะลอตัว แต่เมื่อดูแนวโน้มในกลุ่มตลาดบ้าน ซึ่งเป็นเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะบ้านหรูยังมีโอกาสเติบโตได้ เพียงแต่ผู้ซื้อเพิ่มความระมัดระวัง ตัดสินใจนานขึ้นในการซื้อ เพราะเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม นับเป็นโอกาสในการบุก สร้างตัวเลือกที่ดีให้กับผู้ซื้อ ด้วยรูปแบบและกลยุทธ์ที่แตกต่างตามแบบฉบับแบรนด์ “คริสตัล” เนื่องจากบ้านหรู มีความน่าสนใจในแง่ของมูลค่าสินทรัพย์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับราคา 100 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ มักเป็นลูกค้าเงินฝากระดับท็อปของแต่ละแบงก์ โดยกลุ่มคนดังกล่าวจะมองหาการลงทุนใหม่ๆ เสมอ ซึ่งสินทรัพย์ประเภทบ้านพร้อมที่ดิน มักเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่มองหาไว้สำหรับลูกหลาน

 “ดีมานด์คนกลุ่มนี้ มองไปที่ความคุ้มค่าและมูลค่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นหลัก ราคาขายสูงไม่ใช่คำตอบเสมอไป ยังดูว่าคอนเซ็ปต์บ้าน ทำเล ตอบโจทย์ความต้องการ หรืออยู่แล้วมีความสูขหรือไม่”

เบเวอร์ลี่ ฮิลล์ กรุงเทพฯ

นางศุภานวิต กล่าวต่อว่า สำหรับถนนประดิษฐมนูญธรรม ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ขึ้นชื่อเป็นเบเวอร์ลี่ ฮิลล์ ของกรุงเทพฯ และถือเป็นแลนด์ลอร์ดสำคัญของกลุ่มบริษัท เพราะปัจจุบันมีโครงการบ้านหรู และคอมมิวนิตี มอลล์ ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาบนถนนดังกล่าวรวมแล้วหลายแห่ง ทั้งยังมีที่ดินเปล่าสะสมอีกจำนวนหนึ่ง พบปัจจุบันราคาที่ดินติดถนนเติบโตสูงมาก มีตัวเลขมากกว่า 3 แสนบาทต่อตารางวา โตเฉลี่ยปีละไม่ตํ่ากว่า 10% จากราคาที่มีการซื้อ-ขายจริง

ขณะที่ในอนาคตโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระราม 9-ท่าพระ) และสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่จะเกิดขึ้น และถือเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีกหลายสาย คาดจะสร้างความคึกคักให้กับถนนดังกล่าวอย่างมาก เปรียบเป็นย่านเติบโตแห่งใหม่ของ กทม. อีกย่านหนึ่ง โดยบริษัทเองก็เตรียมแผนพัฒนาโครงการรูปแบบอื่นๆ เพื่อรองรับโอกาสไว้แล้วเช่นกัน

แผนธุรกิจ

ทั้งนี้ แผนดำเนินธุรกิจของกลุ่มในช่วงปีหน้า ธุรกิจหลักยังคงเป็นกลุ่มรีเทล เตรียมเดินหน้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไลฟ์สไตล์ คอมมิวนิตีมอลล์ “รีท บีเคอีอาร์” มูลค่า 1.13 หมื่นล้านบาท ถือเป็นกองทุนขนาดใหญ่อันดับ 2 ในกลุ่มดังกล่าว ตั้งเป้าเติบโตปีละ 20-30% ปีหน้าตั้งเป้าซื้อสินทรัพย์เข้าเพิ่มอีกอย่างตํ่า 30 แห่ง ขณะที่ในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย มีแผนพัฒนาชัดเจนแล้ว 1 โครงการ ย่านเอกมัย และกำลังมองหาที่ดินย่านอื่นๆ พัฒนาเพิ่มเติมอีก คงคอนเซ็ปต์บ้านหรูที่นำไลฟ์สไตล์ที่มาผูกพันตามความถนัด ขณะเดียวกันยังมีแผนพัฒนาสำนักงานไอเดียใหม่ ลักษณะ เวิร์กกิ้ง เพลส ย่านเอกมัย อีก 1 โครงการ คาดเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า

“บ้านหรู มีแผนพัฒนาทีละ 1 โครงการเท่านั้น เพราะต้องใช้เวลาและความละเอียดสูง อยากให้ทุกๆ โครงการเป็นที่สุด เนื่องจากเราต้องการเป็นผู้นำในวงการบ้านหรู โดดเด่นด้วยการนำไลฟ์สไตล์เข้า
มาพัฒนาตอบโจทย์ให้เกิดความคุ้มค่าสำหรับผู้ซื้อและลงทุนให้มากที่สุด”

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,524 วันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2562