‘เนชั่น กรุ๊ป’จัดทัพ สู้ดิจิทัล ดิสรัปชัน

18 พ.ย. 2562 | 02:00 น.

เนชั่นกรุ๊ป เดินหน้า BCC MODEL รับมือดิจิทัล ดิสรัปชัน เพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากโฆษณา อีเวนต์ เทรนนิ่ง และทริปดูงาน เผยพร้อมทรานส์ฟอร์มธุรกิจเต็มรูปแบบ หลังตั้งหน่วยธุรกิจอัจฉริยะ BI ขับเคลื่อนดาต้า 360 องศาต่อยอดข้อมูล ตอบโจทย์ลูกค้าแบบเรียลไทม์

 

 

การเข้ามาของเทค โนโลยี สร้างให้เกิดการเปลี่ยน แปลงอย่างรวดเร็ว วันนี้บนโลกโซเชียล มีเดีย พบว่าจำนวนประชากรไทย 69 ล้านคน มีโทรศัพท์มือถือ 92 ล้านเลขหมาย มีการใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง 11 นาที มีการใช้โทรศัพท์เข้าสู่ระบบโซเชียล มีเดีย 51 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง 11 นาที ส่งผลให้ผู้ประกอบการในโลกธุรกิจต้องปรับตัวให้พร้อมรองรับ รวมถึงธุรกิจสื่อที่ได้รับ ผลกระทบและต้องลุกขึ้นมาปรับองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ Digital Disruption ที่เกิดขึ้นด้วย

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ Media disruption : How the media business must move towards Case study Nation ในหลักสูตร Digital Transformation for CEO (DTC) จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, ฐานเศรษฐกิจ และบริษัท เอ็มเฟค จำกัด (มหาชน) ว่า เนชั่น กรุ๊ป ในวันนี้ก็ไม่ต่างจากองค์กรอื่นๆ ที่กำลังถูกดิจิทัล ดิสรัปต์ เมื่อลูกค้าเปลี่ยน ต้องการสื่อที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น สื่อเองก็ต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์

วันนี้เนชั่น กรุ๊ป เดินหน้าธุรกิจภายใต้ BCC MODEL ประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ Brands ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 8 สื่อ คือ The Nation, ฐานเศรษฐกิจ, กรุงเทพธุรกิจ, คมชัดลึก, เนชั่นสุดสัปดาห์, เนชั่นทีวี, TNEWS และสปริงนิวส์ แต่ละสื่อจะมีรูปแบบการนำเสนอและอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย Contents โดยเนื้อหาที่นำเสนอจะเน้นความหลากหลายในแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น Business, Financial, Technology, Political เป็นต้น และสุดท้ายคือ Community ซึ่งปัจจุบันในช่องทางออนไลน์ มีผู้เข้าชมในทุกๆแพลตฟอร์มรวมกันกว่า 10 ล้านวิวต่อวัน โดยจะนำเสนอผ่าน 4 แพลต ฟอร์ม ได้แก่ สิ่งพิมพ์ ออนไลน์ ทีวี และสื่อนอกบ้าน (OOH)

ขณะเดียวกันเนชั่น กรุ๊ป จะมุ่งเน้นการเพิ่มช่องทางหารายได้ จากเดิมที่พึ่งพิงเม็ดเงินโฆษณาในสื่อต่างๆ เป็นหลัก ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาเริ่มลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสื่อสิ่งพิมพ์ อย่างไรก็ดี ในอนาคตแผนการสร้างรายได้ของบริษัทจะมาจาก 4 ช่องทางได้แก่

1. โฆษณา ผ่านทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ ทีวี และสื่อนอกบ้าน

2. Event onground การจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ อาทิ งานวิ่ง สัมมนา ฯลฯ โดยในปีนี้มีการจัดกิจกรรมไปแล้วกว่า 80 งาน

3. Traning & Education การจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตร Digital Transformation for CEO (DTC) ที่เริ่มต้นขึ้นแล้วและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีแผนจัดต่อเนื่องทันที

4. Tour & Experiences การจัดทริปท่องเที่ยว ดูงานต่างๆ เพื่อมองหาประสบการณ์ใหม่ โดยมีพิธีกรและเหล่านักแสดงเข้าร่วม นอกจากนี้ยังร่วมกับแฮปปี้ โปรดักท์ ทำธุรกิจโฮมช็อปปิ้งจากช่องทางออนไลน์ ซึ่งสร้างรายได้ให้เฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาทด้วย

“การซินเนอร์ยีสื่อในเครือเนชั่น จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ทั้งจากออฟไลน์และออนไลน์ ไหลมารวมกันหรือเรียกว่า ดาต้า สตรีม เมื่อเชื่อมโยงกันในทุกๆดาต้า จะกลายเป็นดาต้า 360 องศา”

นายฉาย กล่าวว่า การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของเนชั่น กรุ๊ป จะเริ่มเห็นผลใน 6 เดือนแรก ก่อนที่จะเป็นรูปธรรมทางตัวเลขใน 1 ปี ซึ่งขณะนี้มีการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยมีนายศีล นวมานนท์ เป็นประธานหน่วยธุรกิจอัจฉริยะ Business Intelligence (BI) ที่จะทำหน้าที่ รวบรวมข้อมูล จัดเก็บ วิเคราะห์ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้องค์กรประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 

หน้า 15 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3523 วันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2562