เปิดมุมคิด CEO ดิจิทัลเอเยนซี แบรนด์ไทย บุกตลาดจีน

17 พ.ย. 2562 | 11:00 น.

 

การเติบโตอย่างรวดเร็วของโซเชียล มีเดีย ส่งผลให้ธุรกิจต้องเร่งเรียนรู้และศึกษาถึงการเข้าถึงและต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ด้วยเพราะเชื่อมั่นว่า โซเชียล มีเดียจะกลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลในอนาคตอันใกล้ เช่นเดียวกับเอเยนซี หรือวงการโฆษณา ที่วันนี้ได้เกิดเป็น “ดิจิทัล เอเยนซี” เพื่อให้บริการด้านสื่อโซเชียล โดยเฉพาะ และหนึ่งในวงการดิจิทัล เอเยนซี ที่กำลังถูกกล่าวขานถึงในวันนี้ต้องมีชื่อของ “The Fifth Haus” และความโดดเด่นของ The Fifth Haus นี่เอง ทำให้โดนใจดิจิทัล เอเยนซีบนโลกโซเชียล มีเดียอันดับ 1 ของจีนอย่าง “ดิจิลิงก์ เอเชีย” จนกลายเป็นความร่วมมือ และก่อเกิดเป็น “ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์” ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ สร้างโอกาสให้แบรนด์ไทยผงาดในตลาดจีน

 

 “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “พรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ จำกัด ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้

 

ที่มาของ ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์

“พรรณอวิกา” เล่าให้ฟังว่า วันนี้โลกโซเชียลมีอิทธิพลอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยและอีกหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ จีน วันนี้จีนซึ่งมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน มีผู้ใช้สื่อโซเชียลกว่า 1,000 ล้านบัญชี การซื้อขายสินค้าบนโซเชียล กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเอง เพราะสินค้าไทยเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของคนจีนเป็นอย่างดี อีกทั้งประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของไทยที่จะได้ฐานลูกค้าใหม่

เปิดมุมคิด CEO ดิจิทัลเอเยนซี แบรนด์ไทย บุกตลาดจีน

ขณะที่ The Fifth Haus ถือเป็นหนึ่งในดิจิทัล เอเยนซีที่ประสบความสำเร็จ ด้วยประสบการณ์กว่า 5 ปีทำให้มีความรู้ ความชำนาญ ภายใต้แนวคิดที่พร้อมเดินหน้าและขยายธุรกิจทำให้กลายเป็นพันธมิตรกับ ดิจิลิงก์ เอเชีย

 

“ครั้งแรกที่พบกันคือหลัก สูตรอบรมหลักสูตรหนึ่งในต่างประเทศ ด้วยแนวคิด วิธีการทำงานที่เหมือนกัน กลายเป็นพันธมิตร และเมื่อดิจิลิงก์ เอเชียสนใจที่จะขยายตลาดมาเมืองไทย จึงเลือก The Fifth Haus เป็นพาร์ตเนอร์ และแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในประเทศ ไทยอย่างเป็นทางการ”

 

ดิจิลิงก์ เอเชียคือใคร

ดิจิลิงก์ เอเชีย เป็นผู้ให้บริการด้านการทำตลาดบนโซเชียล มีเดีย โดยเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ (Official Partner) ให้กับ WeChat โซเชียล เน็ตเวิร์ก อันดับ 1 ของจีนซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1,000,000,000 ยูสเซอร์ รวมถึงโซเชียล มีเดียและมีเดีย แพลตฟอร์มระดับแนวหน้าของจีน ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนซึ่งมีอยู่เกือบ 1,400 ล้านคนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในกวางโจว, เสินเจิ้น, ซิดนีย์ และกัวลาลัมเปอร์

เปิดมุมคิด CEO ดิจิทัลเอเยนซี แบรนด์ไทย บุกตลาดจีน

“ความสำเร็จของดิจิลิงก์ เอเชียเกิดจากการให้บริการครบวงจร โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรกับ WeChat โซเชียล เน็ตเวิร์ก อันดับ 1 ของจีน ซึ่งมีบัญชีผู้ใช้งานถึง 1,000 ล้านบัญชี โดยครอบคลุมถึง 79% ในการให้บริการทั้งการส่ง ข้อความ อ่านข่าว บทความไลฟ์สไตล์ ติดตามดารา รับโปรโมชัน ไปจนถึงซื้อของออนไลน์และชำระเงิน ครบ-จบ-ในที่เดียว”

 

ทำไมแบรนด์ไทยต้องไปจีน

“พรรณอวิกา” บอกว่า วันนี้ตลาดจีนมีศักยภาพมาก ไม่ใช่แค่จำนวนประชากรที่มีมาก แต่กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนระดับกลางที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 10% และกลุ่มนี้นิยมท่องเที่ยว จับจ่ายซื้อสินค้า หากผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภค กลุ่มนี้ได้ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ก็สามารถทำยอดขายได้ในปริมาณมหาศาล เพราะกลุ่มเป้าหมายนี้นอกจากนิยมมาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นอันดับต้นๆแล้ว ยังใช้จ่ายซื้อสินค้ากลับไป และเมื่อใช้ชีวิตในประเทศจีน ก็นิยมซื้อสินค้าไทยเช่นกัน

 

วันนี้แบรนด์ไทยจึงต้องมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพราะในตลาดจีนเองมีตัวเลือกจำนวนมาก ซึ่งการสร้างแบรนด์ในโซเชียล มีเดียจึงเป็นสิ่งจำเป็น และต้องเรียนรู้ว่าจะสามารถเข้าไปอยู่บนหน้าเว็บไซต์ หรือช่องทางโซเชียล มีเดียในจีนได้อย่างไร เพราะจีนไม่ใช่มีแต่ WeChat อย่างเดียว แต่ยังมีโซเชียลมีเดีย, มีเดียแพลตฟอร์ม และ Programmatic ที่ในประเทศมีการใช้กันมากกว่า 100 Platforms ดังนั้นการใช้ดิจิทัล เอเยนซีที่มีให้บริการครบ ทั้งการวางแผนสื่อสารบนโลกโซเชียล มีเดีย การกำหนดคอนเทนต์ การเลือกใช้สื่อ การกำหนดโปรโมชัน เพย์เมนต์ การเลือกใช้ Influencer ฯลฯ รวมถึงสามารถเจาะลึกด้วย Baidu, Qiboo 360, Weibo, Ctrip, Mafengwo, Tripadvisor, Tictok ก็จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น

 

โดยกลุ่มลูกค้าที่ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ มองว่ามีศักยภาพ และสามารถเข้าไปทำตลาดบนโซเชียล มีเดียของจีนได้ ได้แก่ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ,  อสังหาริมทรัพย์,  สินค้าอุปโภคบริโภค และ แฟชั่นและรีเทล ขณะที่การรุกทำตลาดในปีแรกคาดว่าจะมีผู้ประกอบการคนไทยสนใจเข้าร่วมทำตลาดในโซเชียล มีเดียจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ราว 200 ล้านบาท

 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3523 ระหว่างวันที่ 17 - 20 พฤศจิกายน 2562