จับตา ‘นวัธ’ พ้นส.ส.? พปชร.ลุ้นเพิ่มที่นั่งในสภา

10 พ.ย. 2562 | 03:00 น.

 

ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน นี้แล้ว ที่สมาชิกภาพของ นายนวัธ เตาะเจริญสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (..) แบบแบ่ง เขตเลือกตั้ง จังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 จะเป็นที่แน่ชัดต่อสังคม จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (6) หรือไม่ หลังจากต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต และถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาลในคดีจ้างวานฆ่า นายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ขอนแก่น เมื่อปี 2556

ที่ผ่านมามีความเห็นต่างในเชิงของการตีความทางกฎหมาย ดังเช่น รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นว่า นายนวัธ ต้องพ้นสมาชิกภาพ .. เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวเท่ากับถูกจำคุกทันที แม้ต่อมาจะขอประกันตัวกี่ครั้งและเกิดได้ประกันตัวในภายหลังก็ตาม

เช่นเดียวกับความเห็นของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ที่ชี้ว่า เมื่อเปิดกฎหมายก็เห็นชัดในรัฐธรรมนูญมาตรา 98 และ 101 ซึ่งทั้ง 2 มาตรานี้เชื่อมโยงกัน อันหนึ่งขาเข้า อันหนึ่งขาออกโดยมาตรา 98 (6) ระบุว่า ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลก็ต้องพ้นสภาพ ไม่ว่าจะถึงที่สุดหรือไม่ หรือไม่ว่าจะข้อหาใดก็ตาม

รวมถึงนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่เห็นว่า หากนายนวัธ ไม่ได้รับการประกันตัวตามหลักกฎหมาย เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในห้องขังทำให้สถาน ภาพความเป็นส..ของนายนวัธ สิ้นสุดลงทันที เนื่องจากเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ประกอบมาตรา 98 ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

ขณะที่ศ.ดร.อุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษก กรธ. ให้ข้อสังเกตเอาไว้เช่นกันว่า จากคำพิพากษาดังกล่าวยังไม่มีผลต่อสถานะความเป็น ..รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของนายนวัธ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรคท้าย ระบุว่า กรณีมีการฟ้อง .. หรือ ..ในคดีอาญาไม่ว่าจะได้ฟ้องนอกหรือในสมัยประชุม ศาลจะพิจารณาคดีนั้นในระหว่างสมัยประชุมก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นต้องมาประชุมสภา เท่ากับว่าการพิจารณาคดีทั้งในชั้นอุทธรณ์และฎีกาจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่การเรียกนายนวัธ ไปดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีในวันที่มีการประชุมสภาจะกระทำไม่ได้เท่านั้น


 

 

คล้ายคลึงกับความเห็นของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ยังไม่กระทบกับสมาชิกภาพการเป็นส.. เนื่องจากนายนวัธ ใช้สิทธิประกันตัวและขออุทธรณ์คดี จึงถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด หากศาลไม่ให้ประกันตัวและถูกจำคุก ทั้งยังยืนยันว่า ไม่กระทบกับสมาชิกภาพเช่นเดียวกัน เพราะแม้ว่าจะติดคุก แต่กฎหมายระบุไว้ว่า สมาชิกภาพจะสิ้นสุดต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้วเท่านั้น ต่างกับความเป็นรัฐมนตรีที่กำหนดไว้ว่า เมื่อติดคุกแล้วต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที

กระทั่ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรธน.ขอให้วินิจฉัยสถานะของนายนวัธ ..พรรคเพื่อไทย เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานต่อไป ซึ่งศาลมีมติรับไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา และมีคำสั่งให้นายนวัธ หยุดปฏิบัติหน้าที่ส..จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

 

จับตา ‘นวัธ’  พ้นส.ส.?  พปชร.ลุ้นเพิ่มที่นั่งในสภา

นวัธ เตาะเจริญสุข

 

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) บัญญัติเกี่ยวกับการสิ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ .. และรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 บัญญัติถึงลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตอนหนึ่ง คือ ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลโดยจะส่งผลให้ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมส..ใหม่ภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสภาพเป็นต้นไป

ดังนั้น ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายนวัธ ต้องพ้นสภาพการเป็นส.. ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อมส..เขต 7 ขอนแก่น

ทั้งนี้จากผลคะแนนเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าหากมีการเลือกตั้งซ่อม จะดุเดือดไม่แพ้สนามเลือกตั้งซ่อม เขต 5 นครปฐม ที่เพิ่งผ่านมาอย่างแน่นอน ยังจะคงเป็นการฟาดฟันกันของ 2 ขั้วการเมือง เพียงแค่เปลี่ยนค่าย และตัวผู้เล่นลงสนามเท่านั้น

สำหรับพรรคพลังประชารัฐซึ่งก่อนหน้านี้หลบฉากให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาในการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม เลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่นในครั้งนี้บิ๊กป้อม-พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศสู้ศึกเต็มที่ เพราะพรรคต้องการได้พื้นที่ทางภาคอีสาน

 

เตรียมส่งสมศักดิ์ คุณเงินเป็นว่าที่ผู้สมัครส.. ของพรรคลุยศึกนี้ ต้องถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนายสมศักดิ์ เคยเป็นอดีต ..เก่า เป็นคนในพื้นที่ที่ชาวบ้านรู้จัก และคุ้นเคยดี ยังไม่เคยมีภาพลักษณ์ที่เสียหายแต่อย่างใด ทั้งยังทำผลงานได้ดีในการเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา โดยกวาดคะแนนมาได้ 26,553 คะแนน เป็นลำดับที่ 2 รองจาก นายนวัธ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ 29,270 คะแนน

“งานหินจึงอาจตกอยู่กับพรรคเพื่อไทยในฐานะเจ้าของที่นั่งเดิม ซึ่งต้องพิถีพิถันเฟ้นหาตัวผู้สมัครมารักษาฐานที่มั่นนี้เอาไว้ให้ได้ ซึ่งหมายรวมถึงอาจจะต้องพูดคุยกับพรรคอนาคตใหม่ด้วยว่าจะส่งผู้สมัครลงชิงชัยด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ให้ตัดคะแนนกันเอง เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคมนายสมควร ไกรพนผู้สมัคร ..ของพรรคอนาคตใหม่ ทำคะแนนมาเป็นลำดับที่ 3 ได้ 12,414 คะแนน

สวนทางกับพลังประชารัฐที่เชื่อว่า ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย จะไม่ส่งผู้สมัครเข้าชิงชัย เพราะจากผลคะแนนการเลือกตั้งครั้งก่อนไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เรียกว่าพ่ายแพ้ราบคาบ โดย นายภูมิบดี วิเชษฏฐพงษ์ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ได้ 889 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 7 ส่วนนายสมชาย ขุนจันทร์ จากภูมิใจไทย อยู่ในลำดับที่ 11 ได้ 549 คะแนน จึงเชื่อได้ว่า ครั้งนี้จะเปิดทางให้กับพลังประชารัฐลุยได้เต็มที่

ส่วนพรรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชาติ เพื่อชาติ เสรีรวมไทย ครูไทยเพื่อประชาชน ไทรักธรรม และเพื่อไทยพัฒนา มีคะแนนตามมาห่างๆ อยู่ในระดับหลักพันถึงหลักสิบเท่านั้น

2 ขั้วการเมืองไทยจะได้ระเบิดศึกเลือกตั้งซ่อมส..กัน ในสนามนี้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องลุ้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ก่อน

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2562