ห่วงคอนโด สต๊อกเก่า เจอภาษีที่ดิน    

10 พ.ย. 2562 | 23:20 น.

ผู้ประกอบการอสังหาฯกังวลคอนโดฯสต๊อกเก่าพร้อมอยู่ ถูกเรียกเก็บภาษีที่ดินฯ ถ้าขายไม่หมดภายใน 3 ปีหลังพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบังคับใช้ เริ่มต้นปี 2563

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กฎหมายใหม่ที่จะเข้ามาบังคับใช้ช่วงต้นปี 2563 แทนที่ภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมถึงกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ที่มีการประกาศใช้ยาวนานมานับ 80 ปี ตามเป้าหมายใหม่ เพื่อให้การจัดเก็บรายได้ไปสู่ท้องถิ่นมีประสิทธิภาพ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น และลดความ
เหลื่อมลํ้า การทุจริตคอร์รัปชันในระดับเจ้าหน้าที่นั้น

นางสาววิลาวัลย์ วีระกุล รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า แม้จะมีการประกาศราคาประเมินใหม่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ แต่ยังคงเป็นตัวเลขเดิมไปอีก 1 ปี ตามรอบบัญชีปี 2559-2563 ไม่ต้องการให้กังวลว่าสิ่งปลูกสร้างจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงแตกต่างกัน เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตามสิ่งปลูกสร้าง 5 ประเภท เช่น บ้านตามแบบ 36 แบบหลัก เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทจะมีราคาเดียว โดยไม่ต้องใช้ดุลพินิจของกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เช่นในอดีต

อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างในกระบวนการของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ที่ต้องเร่งหารือ หลังจากเดิมมีราคาประเมินรอไว้ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องแรก แต่กฎหมายใหม่ต้องมีเอกสารสิทธิห้องชุดก่อน ถึงจะจดทะเบียนโอนห้องแรก และค่อยประกาศราคาประเมินตามมา

 

ด้านนายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ในระยะสั้นช่วง 1-2 ปีแรก ภาพที่เกิดขึ้นกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ภาษีดังกล่าวไม่ได้เป็นภาระมากนัก เพราะมีการยกเว้นกลุ่มสร้างใหม่ ลดหย่อน 3 ปี แต่หนักใจในแง่ของหน่วยคอนโดมิเนียมที่เป็นสต๊อกเก่าพร้อมอยู่ ตามภาษีใหม่จะถูกเรียกเก็บด้วย หลังหมดช่วงลดหย่อนให้ ซึ่งไม่ค่อยเห็นด้วย ส่วนระยะต่อไป ผู้ประกอบการคงต้องขยับปรับตัว

กลุ่มแนวราบไม่น่ามีปัญหา ง่ายหน่อย ควบคุมซัพพลายได้ พัฒนาเท่าไหร่ถึงไม่กระทบต้นทุน แต่ในกลุ่มคอนโดฯ เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะเป็นตึกสูง บริหารยาก เพราะฉะนั้นอนาคตผู้บริโภคอาจต้องซื้อบ้าน-คอนโดฯราคาแพงขึ้น นายวสันต์กล่าว

 

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์ แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เชื่อว่าภาษีที่ดินฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2563 แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อคอนโดฯ เพราะค่าภาษีไม่สูงนัก และคาดว่าจำนวนอุปทานใหม่ในปี 2562 จะชะลอตัวลง เนื่องจากนักพัฒนาโครงการเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป รวมถึงการเข้าซื้อพื้นที่เพื่อพัฒนาที่พักอาศัย ซึ่งพวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่การขายห้องที่เหลืออยู่ในตลาดแทน อีกทั้งจะยื่นข้อเสนอส่วนลดและโปรโมชันพิเศษ เพื่อที่จะขายทั้งยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วและที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างไปพร้อมๆกัน

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2562