บิ๊กเนมปั๊มยอดไฮซีซันชิงตลาด เครื่องทำนํ้าอุ่น

09 พ.ย. 2562 | 08:45 น.

ตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่นเดือด แบรนด์ดังพาเหรดชิงแชร์ 2,800 ล้านบาท “สตีเบล” ปูพรมรุกหนัก อัดโปรฯแรง ลด แลก แจก แถมทั่วประเทศหวังทวงคืนยอดขายช่วงปลายปี “มาซูม่า” ซุ่มเงียบเร่งสปีดช่องทางออนไลน์ พร้อมดึงแบรนด์น้องใหม่ ARISTON เสริมทัพไฮซีซัน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์

แม้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่นเมืองไทยจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในแคติกอรีอื่นๆ และมีจำนวนผู้เล่นหลักเพียง 4-5 ราย แต่ทว่าการแข่งขันกลับดุเดือด โดยเฉพาะใน 3 เดือนสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันที่ผู้ประกอบการแบรนด์ดังต่างเร่งเครื่องโกยยอดขายกันเต็มที่ หลังจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อฉุดตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่นให้หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

นายพัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อน “สตีเบล เอลทรอน” จากประเทศเยอรมนี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การแข่งขันในตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่นในช่วงปลายปีนี้ยังไม่มี Big Players หน้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมจึงเป็นการรุกทำตลาดหนักของผู้เล่นเดิม ขณะที่พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันในการเลือกซื้อเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อน มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกมากกว่าเรื่องราคา ตามมาด้วยเรื่องของความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ดังนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์พยายามสร้างและให้ความสำคัญ

“ภาพรวมเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อน ในไตรมาสสุดท้ายส่งสัญญาณที่ดีขึ้น จากทั้งสภาวะเศรษฐกิจหลายอย่างที่เริ่มคลายตัว รวมทั้งมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐทยอยเข้ามากระตุ้นในไตรมาสสุดท้ายทำให้คาดว่าน่าจะกลับมาเติบโตขึ้นได้ ขณะที่ปัจจัยลบที่น่าเป็นห่วงยังคงเป็นเรื่องของ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจโลก, กรณีอเมริกา-จีน, BREXIT รวมทั้งสถานการณ์ในฮ่องกง แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะผ่านไปด้วยดี”

บิ๊กเนมปั๊มยอดไฮซีซันชิงตลาด เครื่องทำนํ้าอุ่น

ขณะที่แผนงานของบริษัทในช่วงโค้งท้ายนี้ให้ความสำคัญกับการเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการจัดแคมเปญ“บินลัดฟ้ากับสตีเบล เอลทรอน” ร่วมเชียร์สโมสรฟุตบอลโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ เครื่องทำนํ้าอุ่น XG Dortmund Limited Edition รวมทั้งการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้าน เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายให้เติบโตจากปีที่แล้วได้ไม่น้อยกว่า 8-10%

บิ๊กเนมปั๊มยอดไฮซีซันชิงตลาด เครื่องทำนํ้าอุ่น

“การแข่งขันในปัจจุบันแบรนด์ญี่ปุ่นและโลคัล ยังคงใช้กลยุทธ์ด้านราคาในการแข่งขันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าสตีเบล เอลทรอนเราเองก็มีรุ่นแมสอยู่ แต่เราจะไม่ลงไปเล่นเรื่องสงครามราคาจนทำให้เราต้องลดคุณภาพสินค้าแน่นอน”

 สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อนในไทยปีที่ผ่านมามีมูลค่าราว 2,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นเชิงปริมาณที่ 750,000 -800,000 เครื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบโตลดลงราว 8-11% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว ขณะที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายภาพรวมตลาดเริ่มฟื้นกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดทั้งปีมีการเติบโตลดลงเหลือเพียง 5-10% โดยในส่วนของบริษัทเองคาดการณ์ว่าจะปิดตัวเลขทั้งปีได้เท่ากับปีที่แล้วหรืออาจน้อยกว่าคือติดลบราว 5% และเชื่อว่ายังคงรักษามูลค่ายอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทยไว้ได้

บิ๊กเนมปั๊มยอดไฮซีซันชิงตลาด เครื่องทำนํ้าอุ่น

ด้านนายศรัล ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองนํ้า,เครื่องทำอุ่นมาซูม่า กล่าวว่า ประเมินว่าตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อนในช่วงปลายปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่อาจจะเย็นลงกว่าปีที่ผ่านมา ความต้องการเครื่องทำนํ้าอุ่นนํ้า-นํ้าร้อนที่เติบโตตามการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในส่วนของบริษัทมีการเตรียมโปรโมชันและแคมเปญเพื่อรองรับช่วงหน้าขายอย่างเต็มที่

 

“ตลาดเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อนเติบโตดี โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ยอดขายเครื่องทำนํ้าอุ่นจะเติบโตมากเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่น่าห่วงในไตรมาส 4 คือความพร้อมในเรื่องการบริการ การติดตั้ง การซ่อมแซม ที่จะมียอดขายและการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้ตรงนี้บริษัทต้องมีการเตรียมความพร้อมของศูนย์บริการ พนักงาน เพื่อรองรับความต้องการในช่วงไฮซีซันให้มากที่สุด ซึ่งเฉพาะไตรมาส 4 มียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 40% 

จากยอดขายตลอดทั้งปี ซึ่งแน่นอนการเข้ามาของแบรนด์ ARISTON ถือเป็นการเสริมพอร์ตสินค้าในกลุ่มเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อนพรีเมียมของบริษัท” พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เปิดตัวเครื่องทำนํ้าอุ่นแบรนด์ ARISTON จากประเทศอิตาลี เข้ามาทำตลาด โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เพื่อเสริมพอร์ตสินค้าในกลุ่มเครื่องนํ้าอุ่นให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในปีหน้าบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัว “เครื่องทำความสะอาดกำจัดสารพิษอเนกประสงค์” 

โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าทั่วไป ในระดับราคา 4,000 บาท นอกจากนี้ยังมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 2 แห่งในปีหน้า เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ จากปัจจุบันที่มีศูนย์บริการอยู่ 18 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 15% แบ่งเป็นยอดขายที่มาจากเครื่องฟอกอากาศ HONEYWELL 30% หรือมียอดขายราว 3 หมื่นเครื่อง, เครื่องกรองนํ้า 40% และเครื่องทำนํ้าอุ่น 30%

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3520 ระหว่างวันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน 2562