ขุดอดีตถล่มรัฐบาล ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกมุ่งบริหารงานผิดพลาดไม่เน้นทุจริต

06 พ.ย. 2562 | 04:45 น.

 

7 พรรคร่วมฝ่ายค้านมติเอกฉันท์ยื่นซักฟอก ยึดฐานความผิด 5 ปี ที่รัฐบาลพล..ประยุทธ์ บริหารประเทศมา ไม่เน้นทุจริตเป็นหลัก แต่มั่นใจข้อมูล-หลักฐานแน่น ผลักรัฐบาลหัวคะมำได้ คาดอภิปราย 18-20 ..นี้

 

ตัวแทนกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) 7 พรรค นำโดย นายสุทิน คลังแสง ..มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ..อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาวิปฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ..น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการ วิปฝ่ายค้าน นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นางสาวศิริกันยา ตันสกุล ..บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ร่วมประชุมที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ภายหลังการประชุม .. อนุดิษฐ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เราได้ตรวจสอบการทำงานของ รัฐบาลมาโดยใกล้ชิด ซึ่งหลังจากที่ปิดสภาได้มีการเก็บข้อมูลรวบ รวมหลักฐาน โดย 7 พรรคได้รวบรวมเอาความหนักแน่นของข้อมูลมาประมวล และประเมินก่อนที่ 7 พรรคจะมีมติเป็นเอก ฉันท์ว่าควรยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนจะยื่นเมื่อไหร่ จะเป็นรายคน หรือรายกระทรวง รวมถึงมีรายละเอียดอย่างไรนั้น จะประชุมกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป

 

ขุดอดีตถล่มรัฐบาล  ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกมุ่งบริหารงานผิดพลาดไม่เน้นทุจริต


 

 

ด้านนายสุทิน ระบุว่า ได้ยึดกรอบความพร้อมในเรื่องของข้อหาและหลักฐาน ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายที่มาตรฐานอาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องการทุจริตเป็นหลัก แต่ครั้งนี้เราจะมองไปถึงความผิดพลาดความสามารถในการบริหาร ประเทศที่ทำลายเครดิตของประเทศให้ตกตํ่า โดยยึดฐานความผิดมาจากระยะเวลา 5 ปี ที่รัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศมา เราเห็นว่าความผิดในอดีตส่งผลต่อปัจจุบันและเป็นความกังวลไปสู่อนาคต ซึ่งกรอบเวลาคร่าวๆ ที่เราเห็น ว่าเหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ วันที่ 18-19-20 ธันวาคมนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นที่ฝ่ายค้านล็อกเป้ามีรัฐมนตรีคนใด หรือกระทรวงใดบ้าง นายสุทินตอบว่า เราจะอภิปรายผสมผสานกันไป ทั้งรัฐบาลที่ผ่านมาและรัฐบาลปัจจุบัน เนื่องจากคนเก่าสร้างความผิดและคนใหม่มาต่อยอดความผิด ดังนั้นต้องอภิปรายทั้งคนเก่าและคนใหม่ควบคู่กันไป อย่างไรก็ตามจะ แตกต่างที่ประเด็นความผิด เพราะบางกรณีความผิดทำกันหลายคน ยึดโยงกันหลายกระทรวง บางเรื่องโยงไปถึงหัวหน้ารัฐบาลที่ดึงลูกน้องมาทำความผิด แต่บางเรื่องก็เป็นความผิดส่วนบุคคล

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งเป้าว่าจะสามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายสุทิน ชี้แจงว่า โดยเจตนาเราไม่ได้ต้องการล้มรัฐบาล แต่ถ้าเขาชี้แจงไม่ได้ แล้วทำความผิดจริง เขาจะล้มด้วยตัวของเขาเอง โอกาสในการล้มรัฐบาลโดยการยกมือในสภาเป็นไปได้น้อยอยู่แล้ว แต่หากหลักฐานเราดีก็เป็นไปได้ที่พรรคฟากรัฐบาลจะยกมือสนับสนุนเรา

 “ที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนล้มด้วยการยกมือในสภา แต่จะเพลี่ยงพลํ้าจากสภา แล้วไปล้มข้างนอก เสมือนเป็นการเปิดแผลในสภาแล้วไปเน่าข้างนอก ซึ่งผมเชื่อว่าปัจจุบันพลังของโซเชียลจะเป็นม็อบที่สำคัญ และเป็นม็อบที่ใหญ่ที่สุด ที่จะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม เรามีหลักฐานแน่นอน เพราะถ้าไม่มีเราไม่กล้าเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยพรรคฝ่ายค้านจะมาคุยกันว่าหลักฐานที่มีจะเป็นการผลักให้เซหรือผลักให้ล้ม แต่วันนี้เราสรุปกันได้แล้วว่ามีผลักให้หัวคะมำนายสุทิน ระบุ

ขณะที่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า หากวางกรอบที่จะอภิปรายในวันที่ 18-20 ธันวาคม สิ้นเดือนพฤศจิกายน จะต้องร่างญัตติให้เสร็จเพื่อยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภา โดยอย่างช้าที่สุดต้องไม่เกินวันที่ 6 ธันวาคม ที่จะต้องยื่นญัตติให้กับประธานสภา

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,520 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2562