สตาร์ตอัพสิงคโปร์ รุกไทย ดึงธุรกิจท่องเที่ยวสู่ดิจิทัลสู้ศึกดิสรัปชัน

08 พ.ย. 2562 | 02:00 น.

 

ธุรกิจสตาร์ตอัพ สัญชาติสิงคโปร์GlobalTix” ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีครบวงจร B2B ที่ใหญ่ที่สุด สำหรับทัวร์-กิจกรรมในเอเชีย รุกเจาะธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพิ่มช่องทางขายผ่านอี-ทิกเก็ต สู้ศึกการจำหน่ายตั๋วแบบดั้งเดิมที่ได้รับผล กระทบจากการถูกดิสรัปชัน

ปัจจุบันการจองและการออกตั๋วสำหรับกิจกรรมทัวร์และสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในไทย ยังคงดำเนินการด้วยตนเอง ในลักษณะของ (Manual) เป็นส่วนใหญ่ แต่ในทางกลับกันจะพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของการใช้งานบนมือถือ

ทำให้นักเดินทางยุคใหม่ หันมาใช้แพลตฟอร์มมือถือ เพื่อจองแผนการเดินทางท่องเที่ยววันหยุดพักผ่อนในแบบกระชั้นชิด  ทั้งยังพบว่า 2 ใน 5 ของการจองใน 1 วันหรือ 2 วันก่อนการเดินทาง จะดำเนินการโดยใช้แอพพลิเคชันมือถือ

ประกอบกับการลงทุนเบื้องต้นในการพัฒนาเทคโนโลยีก็อยู่ในระดับสูง ทำให้ปัจจุบันกว่า 80% ของทัวร์และกิจกรรมทั่วโลกยังคงแบบออฟไลน์ แม้ว่าแนวโน้มใหญ่ในกลุ่มทัวร์และกิจกรรม นักเดินทางจะจองผ่านออนไลน์มากขึ้น

GlobalTix ผุดสนง.กรุงเทพฯ

นี่เองจึงทำให้ล่าสุดธุรกิจสตาร์ตอัพ สัญชาติสิงคโปร์ ที่เปิด ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2557 อย่างGlobalTix” ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในตลาดธุรกิจแบบ (Business- to-Business-B2B) ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทัวร์และกิจกรรมเกี่ยวเนื่องต่างๆ ในเอเชีย โดยมีการเชื่อมโยงคู่ค้ากว่า 2,000 ราย ด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 8 หมื่นรายการจาก 120 เมือง ได้รุกเข้ามาเจาะตลาดในไทย และตั้งสำนักงานขึ้นในกรุงเทพฯเพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

 

สตาร์ตอัพสิงคโปร์ รุกไทย  ดึงธุรกิจท่องเที่ยวสู่ดิจิทัลสู้ศึกดิสรัปชัน

 

หลังจากที่ผ่านมา บริษัท Tin Men Capital ซึ่งเป็นบริษัท ร่วมทุน B2B ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ลงทุน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของ GlobalTix ในตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญรวมถึงไทย อินโดนีเซียและมาเลเซีย

โดยแพลตฟอร์มการตลาดของ GlobalTix ในไทย จะเป็น การรวบรวมข้อเสนอการท่องเที่ยวทั้งด้านการจองทัวร์ กิจกรรม และการจองสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นและผู้ให้บริการการขนส่ง ที่มีอยู่กว้างขวาง แต่กระจัดกระจายของประเทศไทย ลงบนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น สำหรับการเดินทางเชิงประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร


 

 

ดึงธุรกิจพันรายสู่ดิจิทัล

นายชาน ชี ชอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GlobalTix Pte Ltd. กล่าวว่า GlobalTix มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการจำหน่ายตั๋วเดินทางแบบ เดิมๆ ที่ถูกดิสรัปชัน โดยช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว เชิงประสบการณ์ขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) หลายพันรายในไทย เพิ่มการแสดงตนแบบดิจิทัลและเพิ่มยอดขายออนไลน์ โดยนำเสนอโซลูชันแบบสมัครสมาชิก แบบ B2B เริ่มต้นด้วยค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 39 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน

สตาร์ตอัพสิงคโปร์ รุกไทย  ดึงธุรกิจท่องเที่ยวสู่ดิจิทัลสู้ศึกดิสรัปชัน

ชาน ชี ชอง

 

ทำให้เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวและผู้ให้บริการสามารถเข้าสู่โซลูชันเทคโนโลยีคลาวด์ และแพลตฟอร์มการกระจายบริการ e-ticket ของ GlobalTix ซึ่งโซลูชันนี้จะเชื่อมโยงระบบรอง รับการขายออนไลน์ของเจ้าของ สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงการ ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์หรือวัฒนธรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ตอบสนองความต้อง การของผู้บริโภคผ่านการจองแบบเรียลไทม์และความสะดวกสบายของตั๋วไร้กระดาษ ทำให้ขาย บริการได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ระบบดิจิทัล

เปิดช่องขายผ่าน บิ๊ก OTA

ทั้งนี้เจ้าของสถานที่ไม่เพียงจะใช้ประโยชน์ช่องทาง การจัดจำหน่ายทั่วโลกของ GlobalTix จากพันธมิตรการท่องเที่ยวกว่า 2,000 ราย ในแบบ B2B เพื่อเพิ่มยอดขาย เรายังร่วมกับบริษัทชั้นนำเช่น TripAdvisor, Voyagin, Ctrip และ Expedia ในฐานะลูกค้าแบบ B2C (Business-to-Consumer) ด้วย ซึ่งสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์กว่า 80,000 รายการ จาก 120 เมืองที่จดทะเบียนใน GlobalTix ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

 

ทั้งในไทยปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีของ GlobalTix  การจองสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นและผู้ให้บริการขนส่ง อาทิ คิดส์ซาเนีย กรุงเทพฯ, ซีไลฟ์ แบ็งคอก, มัลลิการ์ วิลเลจ, อัยรา ทรานสปอร์ต ซึ่งผู้ประกอบการและตัวแทนการท่องเที่ยวสามารถทำการการซื้อตั๋วอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักเดินทางได้โดยตรง

อีกทั้ง GlobalTix ยังได้รับรางวัล Global Best Innovation Board ประจำปี 2562 จากการท่องเที่ยวสิงคโปร์ และได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมสำหรับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมซึ่งรวมตั๋วบัตรเข้าชมแหล่งดึงดูดการท่องเที่ยวทั้งหมดไว้ใน e- ticket ในหนึ่งใบ ครอบคลุมความต้องการทั้งหมดของผู้เดินทางผ่านรหัส QR ด้วย

ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงาน 5 แห่งในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ สามารถจัดการธุรกรรมได้มากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์บนแพลต ฟอร์มของ GlobalTix และกำลังขยายรูปแบบธุรกิจจากการให้พื้นที่ตลาดสำหรับทัวร์และกิจกรรมต่างๆ ไปสู่พันธมิตรที่เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เจ้าของแหล่งท่องเที่ยวช่วยผลักดันยอดขาย โดยบริษัทออกตั๋วหนึ่งใบทุก 10 วินาที สร้างมูลค่าตั๋วรวมต่อปีเกินกว่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,520 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2562