“อาเบะ” รับปาก “จะร่วมมือใกล้ชิดกับไทยต่อไป”

04 พ.ย. 2562 | 03:11 น.

วันที่ 4 พ.ย. 62 เวลา 08.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

“อาเบะ” รับปาก “จะร่วมมือใกล้ชิดกับไทยต่อไป”

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเยือนประเทศไทยในรอบ 6 ปี ยินดีที่อาเซียนและญี่ปุ่นบรรลุการเจรจาถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 22 ว่าด้วยความเชื่อมโยง พร้อมหวังว่าอาเซียนจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นภายใต้ ASEAN Outlook on Indo-Pacific โดยเฉพาะในประเด็นการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การเข้าถึงบริการทางการเงิน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการจัดการขยะทะเล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนการส่งเสริมความเชื่อมโยง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งชื่นชมญี่ปุ่นในฐานะประธาน G20 ในการจัดทำเอกสารผลลัพธ์สำคัญต่างๆ ของการประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง G20 Principles on Quality Infrastructure Investment ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยง เพื่อสอดประสานข้อริเริ่มด้านความเชื่อมโยงทั้งระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค 

“อาเบะ” รับปาก “จะร่วมมือใกล้ชิดกับไทยต่อไป”

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชื่นชมบทบาทการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย โดยเฉพาะบทบาทผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่สามารถผลักดันให้บรรลุผลการประชุมที่สำคัญต่อการพัฒนาภูมิภาคประสบความสำเร็จ โดยญี่ปุ่นจะเดินหน้าร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป รวมถึงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาประเด็นท้าทายสำคัญในภูมิภาคด้วย

“อาเบะ” รับปาก “จะร่วมมือใกล้ชิดกับไทยต่อไป”

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างยินดีต่อความร่วมมือในการส่งเสริม SMEs และ Startups โดยมีการ การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และ Startups ของไทยและญี่ปุ่น จำนวน 6 ฉบับ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2562 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่าย และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการจัดตั้ง Startups ที่มีนวัตกรรมของรัฐบาลไทยภายใต้โครงการ Innospace (Thailand) รวมทั้ง ความร่วมมือไทย - ญี่ปุ่น ในการพัฒนาประเทศที่สาม ซึ่งมีการลงนามบันทึกช่วยจำว่าด้วยกรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ระยะที่สาม (Memorandum on Japan-Thailand Partnership Programme Phase 3) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เพื่อต่อยอดความร่วมมือที่มีอยู่ในด้านการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในประเทศที่สาม โดยเฉพาะประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และอาเซียน  โดยใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของไทยและญี่ปุ่น 

 

 

นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นความร่วมมือในภูมิภาคสำคัญ เช่น ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและกรอบ G20 ซึ่งไทยและญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ความร่วมมือภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS) และกรอบลุ่มน้ำโขง - ญี่ปุ่น ความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สถานการณ์ในรัฐยะไข่ และ ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและกีฬาระหว่างไทยกับญี่ปุ่น

ก่อนจบการหารือ นายกรัฐมนตรีได้อวยพรให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกใน ปี 2563

 

“อาเบะ” รับปาก “จะร่วมมือใกล้ชิดกับไทยต่อไป”