คปภ.ชูประกันสุขภาพเชิงป้องกัน

03 พ.ย. 2562 | 03:26 น.

เลขาธิการ คปภ. แนะผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพโฉมใหม่ที่ตอบโจทย์ปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพงควรมุ่งในเชิงป้องกันเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพของคนไทย

 

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2561 สาเหตุการเสียชีวิต 5 อันดับแรก ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคปอดอักเสบ โรคหัวใจขาดเลือด และ อุบัติเหตุจากการคมนาคมขนส่งทางบก ซึ่งสาเหตุหลักของโรคต่างๆ มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ที่ดำเนินชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น มีตัวช่วยผ่อนแรงและอำนวยความสะดวก ทำให้ไม่ต้องใช้พลังงานออกแรงของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอาหารการกินที่คนในยุคปัจจุบันสามารถหาได้ง่าย

 

 รวมถึงรสชาติและปริมาณที่ทำให้กินมากขึ้นจนเกิดโรคโดยไม่ทันได้รู้ตัว โดยประเทศไทยมีประชากรกว่า 14 ล้านคนที่เป็นโรคในกลุ่ม NCDs (Non-Communicable diseases) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวคิดเป็น73%ของการเสียชีวิตของประชากรทั้งหมด เป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 25.2 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันและบรรเทาได้ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง อีกทั้งจะช่วยลดโอกาสที่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวด้วย

 

ปัจจุบันมีผู้ทำประกันสุขภาพส่วนตัวกับบริษัทประกันภัยกว่า 10 ล้านคน ทั้งนี้ การประกันสุขภาพในปัจจุบัน รับประกันโดยบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย หากเป็นการรับประกันภัยโดยบริษัทประกันวินาศภัย ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ เป็นรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดียว จ่ายเบี้ยปีต่อปี ถ้าซื้อจากบริษัทประกันชีวิต ต้องมีกรมธรรม์หลักเป็น กรมธรรม์ประกันชีวิตก่อน จึงจะซื้อสัญญาการประกันสุขภาพเพิ่มเติมแนบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตหลัก การประกันภัยสุขภาพมีทั้งแบบรายบุคคล และ ประกันกลุ่ม โดยการประกันภัยสุขภาพแบบรายบุคคล ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยที่ตนเองซื้อไว้ จะคุ้มครองเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จากการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้อุ่นใจ หากเกิดโรคร้ายแรงขึ้น

 

ส่วนการประกันสุขภาพแบบกลุ่ม เป็นการประกันสุขภาพบุคคลหลายคนภายใต้กรมธรรม์ฉบับเดียว โดยที่มีนายจ้างเป็นผู้ถือกรมธรรม์ และมีลูกจ้างเป็นผู้เอาประกันภัย หรืออาจเรียกว่าเป็นสวัสดิการให้แก่ลูกจ้าง ซึ่งลูกจ้างจะได้รับเอกสารใบรับรองการเอาประกันภัย หรือบัตรประกันสุขภาพ เพื่อใช้สิทธิรักษาพยาบาล โดยให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับค่าชดเชย ค่ารักษาพยาบาล เมื่อมีการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ประกันสุขภาพแบบกลุ่มเหมาะสำหรับ กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะสามารถวางแผนการเงินได้ล่วงหน้า เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เพราะแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของลูกจ้างและให้ความสำคัญแก่ลูกจ้าง

 

นอกจากนี้ เพื่อลดความเสี่ยง และเป็นแรงจูงใจให้ผู้เอาประกันภัยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต บริษัทประกันภัยได้ออกนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่เบี้ยประกันภัยแปรผันตามสุขภาพปัจจุบันของผู้เอาประกันภัย โดยได้มีการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและติดตามข้อมูลผู้เอาประกันภัย อาทิพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี มีการออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีตามเงื่อนไข บริษัทจะมีการปรับลดเบี้ยประกันภัย แต่ในทางกลับกัน หากผู้เอาประกันภัยสุขภาพไม่ดี ส่วนลดที่ผู้เอาประกันภัยเคยได้รับจะหายไปหรืออาจจะปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัย เป็นต้น ซึ่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนลูกค้าเชิงป้องกัน หรือ Preventive มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดี เจ็บป่วยน้อยลง และเป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรงในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้าและสุขภาพโดยรวมของคนในประเทศ