ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเมื่อคืนวันศุกร์ (1 พ.ย.)ที่ 27,347.36 จุด เพิ่มขึ้น 301.13 จุด หรือ +1.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,066.91 จุด เพิ่มขึ้น 29.35 จุด หรือ +0.97% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,386.40 จุด เพิ่มขึ้น 94.04 จุด หรือ +1.13%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 128,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 89,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 3.6% ในเดือนต.ค.ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้ 3.5% ของเดือนก.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปีนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2512
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 51.1 ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.3 ในเดือนต.ค. จากระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.1% โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 3
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนที่ขยายตัว ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.0
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดบวก โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นนำตลาด 2.51% และ 2.21% ตามลำดับ
ขณะที่ข่าวความคืบหน้าด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนช่วยหนุนตลาดขึ้นด้วย โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนและสหรัฐได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับหลักการต่างๆ แล้ว ขณะที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนเพื่อทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น และทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มลงนามในข้อตกลงในกลางเดือนพ.ย. แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนได้