บราซิลฮึ่มฟ้อง WTO แบน 3 สารสะเทือนอุตฯไทย 8 แสนล.       

03 พ.ย. 2562 | 03:25 น.

 

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์จี้รัฐบาลเร่งหาทางออก หลังแบน 3 สารเคมี กระทบนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวสาลี สารตกค้างต้องเป็นศูนย์ ร่อนหนังสือถึง 4 รมต.ตั้งคำถามจะให้ทำอย่างไร หวั่นทุบอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง 8 แสนล้านล้มครืน ทูตเกษตรบราซิลฮึ่ม! ฟ้อง WTO

คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้ 3 สารเคมี ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เวลานี้มีแรงกระเพื่อมตามมาจากภาคส่วนที่มีส่วนได้-เสีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันรัฐบาลจะไม่ทบทวนเรื่องนี้ แต่อีกด้านกลุ่มเกษตรกรได้ฟ้องศาลปกครองให้ไต่สวนและขอให้ศาลระงับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่สั่งแบน ซึ่งล่าสุดศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา ขณะกลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์ อีกกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบครั้งนี้ได้ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางสมาคมฯได้ทำหนังสือถึง 4 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยตั้งคำถามว่าจะให้ผู้ประกอบการทำอย่างไร เพราะจากการแบน 3 สาร โดยปรับจากเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 (ห้ามมีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง และควบคุมโดยการห้ามประกอบกิจการใดๆ) แปลความคือ ต้องไม่มีสารตกค้างจากทั้ง 3 สารในสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศด้วย

 

บราซิลฮึ่มฟ้อง WTO  แบน 3 สารสะเทือนอุตฯไทย 8 แสนล.       

 

ทั้งนี้ไม่ว่าสหรัฐฯ บราซิล และอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ผลิตถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง และข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก และเป็นแหล่งนำเข้าหลักของไทยเพื่อนำใช้ผลิตอาหารสัตว์ หรือในอุตสาห กรรมอาหารของไทยต่างมีการใช้สารไกลโฟเซตในการผลิตทั้งสิ้น ดังนั้น หากรัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับ เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมหรือออกกฎกระทรวงให้สามารถนำเข้าสินค้าวัตถุดิบทางการเกษตร โดยอ้างอิงสารตกค้างตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex) ได้ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

 

“อุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั้งไก่ กุ้ง ส่งออกรวมกันปีละกว่า 2 แสนล้าน และใช้บริโภคในประเทศอีกปีละกว่า 3 แสนล้าน รวมกันมากกว่า 8 แสนล้าน ยังไม่นับอุตสาห กรรมอาหารที่มีการนำเข้าข้าวสาลี และถั่วเหลืองมาแปรรูปทั้งขนมอบกรอบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นํ้ามันถั่วเหลือง และสินค้าต่อเนื่องที่อาจต้องล้มกันทั้งห่วงโซ่ หากรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีทางออก หรือเร่งดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องนี้อย่างไร จากที่ผ่านมาบอกแต่เพียงห้ามใช้”

นายพรศิลป์ เผยอีก ทูตเกษตรของบราซิลซึ่งประเทศที่ไทยนำเข้าถั่วเหลืองมากสุดกว่า 50% ได้มาพบที่สมาคมฯ และได้สอบถามว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะค้าขายกันอย่างไร หากรัฐบาลไทยไม่แก้ไขจะนำเรื่องฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) แน่

 

 

ด้านนายสืบวงษ์ สุขะมงคล นายกสมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวสาลี จากบราซิลมากสุด รองมาคือสหรัฐฯ และอาร์เจนตินา ดังนั้นมีวิธีการแก้ไขเพื่อช่วยผู้ประกอบการคือรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข จะต้องออกประกาศแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 387 พ.ศ. 2560 เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้างให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO) ในกรณีที่ไทยผลิตสินค้าเองไม่ได้ หรือไม่เพียงพอ น่าจะมีการผ่อนปรนหรือยืดหยุ่น จากมีข้อพิสูจน์แล้วว่าสารตกค้างเท่าใดไม่เป็นอันตรายกับมนุษย์

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,519 วันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2562

บราซิลฮึ่มฟ้อง WTO  แบน 3 สารสะเทือนอุตฯไทย 8 แสนล.