ลอยกระทง5พื้นที่เอกลักษณ์ ททท.คาดเงินสะพัด 2 พันล.

31 ต.ค. 2562 | 11:18 น.

        ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์  

        นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าการจัดกิจกรรม ““สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ประจำปี 2562 ททท.ได้จัดงานและสนับสนุนการจัดกิจกรรมรวมกว่า 7 จังหวัด ทั้งในกรุงเทพฯและพื้นที่เอกลักษณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยททท.ได้จัดงานในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง พ.ศ. 2562 ณ สวนสันติชัยปราการ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป

ลอยกระทง5พื้นที่เอกลักษณ์ ททท.คาดเงินสะพัด 2 พันล.

        กิจกรรมภายในงาน นำเสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรมไทยในรูปแบบใหม่  เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง สะท้อนให้เห็นถึงประเพณี ที่งดงามของไทย ความศรัทธาทางพุทธศาสนา ตามวิถีชีวิตที่เกี่ยวกับสายน้ำและชูอัตลักษณ์ในพื้นที่เอกลักษณ์ทั่วประเทศ พร้อมกิจกรรมอื่นๆที่สนใจ เช่น ปรากฏการณ์ม่านน้ำนิรมิต ขบวนแห่ทางวัฒนธรรมการแสดงดอกไม้ไฟโบราณ ศิลปหัตถกรรมทรงคุณค่าในรูปแบบต่างๆ อาทิ   การแทงหยวก การประดิษฐ์หัวโขน การทำพนมหมากพนมดอกไม้ เป็นต้น

     อีกทั้งททท.ยังได้สนับสนุนการจัดงาน ในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดตาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรสงคราม  จังหวัดร้อยเอ็ด และกรุงเทพมหานคร ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป   ลอยกระทง5พื้นที่เอกลักษณ์ ททท.คาดเงินสะพัด 2 พันล.

      ทั้งนี้รูปแบบงานในปีนี้ทั้งหมด ททท. เน้นการลดใช้พลาสติก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากรณรงค์ให้ประชาชนเลือกซื้อ เลือกใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ  และรณรงค์ 1 ครอบครัว   1 กระทง เพื่อลดปริมาณกระทง
ลอยกระทง5พื้นที่เอกลักษณ์ ททท.คาดเงินสะพัด 2 พันล.

       ในช่วงเทศกาล ททท.คาดว่าการจัดงานในปีนี้จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และแต่ละพื้นที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่คึกคักกว่าพื้นที่อื่นๆ กอปรกับในปีนี้ขยายวันลอยกะทงจาก 3 วัน  เป็น 4 วัน   

     “ททท. คาดว่าจะมีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวใน 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ตาก สุโขทัย สมุทรสงครามและร้อยเอ็ด ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 4.64 แสนคน/ครั้ง ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 3.6 แสนคน/ครั้ง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 97,000 คน/ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ ประมาณ 2,000 ล้านบาท”