จีนเดินหน้าซื้อ‘ทองคำ’ พร้อมลดการถือครอง ‘พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ’     

30 ต.ค. 2562 | 23:27 น.

คอลัมน์ครบเครื่องเรื่องทองกับ YLG

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

 

ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯที่เปิดเผยเมื่อวันพุธระบุว่า จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สู่ระดับตํ่าสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 พร้อมกันนี้จีนได้กลับมารายงานการถือครองทองคำสำรองระหว่างประเทศเพิ่มนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกันยายนปีนี้

สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯลากยาวมาตั้งแต่ในปี 2018 แม้ปัจจุบันจะเกิดทรรศนะเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าเข้ามาเป็นระยะ โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ออกแถลงการณ์ระบุว่าสหรัฐฯ และจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลง Phase 1” ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนออกมาระบุสอดคล้องกันว่า การหารือทางเทคนิคเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วนได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ล่าสุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนก่อนกำหนดการเดิมที่เคยคาดว่าอาจเกิดขึ้นในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่จะมีขึ้นที่ประเทศชิลีในวันที่ 16-17 พฤศจิกายน นั้นเพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ประเทศจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน แต่ประเด็นนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บต่อสินค้าจีนยังคงอยู่ครบถ้วนทุกรายการ

 

จีนเดินหน้าซื้อ‘ทองคำ’  พร้อมลดการถือครอง ‘พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ’     

 

ดังนั้นจีนซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ได้ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯสู่ระดับ 1.104 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 1.110 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมาจีนได้ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลงเกือบ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และเกือบ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์หากนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แม้จะถือครองลดลง แต่จีนยังคงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น

ในขณะที่ จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จีนก็เพิ่มทองคำสำรองไปพร้อมกัน โดยThe People’s Bank of China ได้เพิ่มทองคำมากกว่า 100 ตันนับตั้งแต่เริ่มกลับมาเข้าซื้อเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย The People’s Bank of China หรือ PBOC ถือครองทองคำเพิ่มในเดือนกันยายนที่ผ่านมา สู่ระดับ 62.64 ล้านออนซ์ จากระดับ 62.45 ล้านออนซ์ในเดือนก่อนหน้า หากคิดคำนวณในรูปแบบตันพบว่าการเข้าซื้อล่าสุดในเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 5.9 ตัน หลังจากก่อนหน้านั้นทางการจีนเข้าซื้อทองคำแล้วราว 99.8 ตันในช่วง 9 เดือนก่อนหน้า ทำให้นับตั้งแต่ ธันวาคม2018-กันยายน 2019 จีนซื้อทองคำรวมแล้ว 105.7 ตัน

หนึ่งในเหตุผลที่จีนลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ พร้อมๆกับการถือครองทองคำเพิ่มคือ การกระจายพอร์ตเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

 

ไม่ใช่แค่จีนเท่านั้นที่ถือครองทองคำเพิ่มในปี 2019 ยังมีธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกีและคาซัคสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเบลารุส ล้วนแล้วแต่เพิ่มปริมาณทองคำสำรองเช่นกัน ล่าสุดเยอรมนีได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดในปี 2019 โดยการเพิ่มการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปีในเดือนกันยายน สู่ระดับ 108.34 ล้านออนซ์ จากระดับ 108.25 ล้านออนซ์ในเดือนก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้นราว 2.8 ตัน

อุปสงค์ทองคำในภาคธนาคารกลางถือว่ามีบทบาทสำคัญในตลาดทองคำและคิดเป็นสัดส่วน 10% ของอุปสงค์ทองคำทั้งหมด ที่สำคัญคือเป็นสิ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อทองคำในหมู่ธนาคารกลางทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ขณะที่สภาทองคำโลก(WGC) คาดว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไป อ้างอิงจากผลสำรวจล่าสุดที่บ่งชี้ว่า ธนาคารกลาง 54% ของผู้ตอบแบบสอบถาม คาดว่าการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า นี่จึงน่าจะเป็นอีกปัจจัยประการหนึ่งที่สร้างเสถียรภาพให้แก่ราคาทองคำ

 

 หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,518 วันที่ 31 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2562

จีนเดินหน้าซื้อ‘ทองคำ’  พร้อมลดการถือครอง ‘พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ’