เงินกู้-เงินบริจาค จุดดับ‘อนาคตใหม่’

31 ต.ค. 2562 | 03:30 น.

 

“เงินบริจาคพรรคการเมือง” กลายเป็นอีกหนึ่งปมร้อนที่อาจพา “พรรคอนาคตใหม่” ไปถึงจุดอวสานได้อีกเรื่อง หลังจากที่ “นักร้อง-ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ไต่สวนและสอบสวนเส้นทางการเงินของ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมการบริหารพรรคและโฆษกพรรคจำนวน 1 ล้านบาท ที่บริจาคให้พรรคเมื่อวันที่ 31 พฤศจิกายน 2561 เพราะ ศรีสุวรรณ เชื่อว่าความใจปํ้าของเธอนั้นสวนทางกับรายได้ที่มีอยู่

“การยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นางสาวพรรณิการ์ มีทรัพย์สินไม่มาก มีเงินฝากเพียงหลักหมื่นแต่กลับมีเงินบริจาคให้พรรคถึง 1 ล้านบาท มีข้อน่าสังเกตว่า เงินบริจาคดังกล่าวอาจไม่ใช่เงินส่วนตัว แต่เป็นเงินที่ได้มาจากผู้อื่น หรือได้มาโดยวิธีการอื่น จึงขอให้กกต.ดำเนินการสืบสวน หรือส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการสืบสวนเส้นทางการเงินดังกล่าวว่าได้มาด้วยวิธีการใด เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายกำหนดหรือไม่” นายศรีสุวรรณ ระบุ

ในวันเดียวกันนั้นยังได้ยื่นขอให้ตรวจสอบการบริจาคเงินให้กับพรรคของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคที่บริจาคช่วงเดือนตุลาคม 2561-มกราคม 2562 จำนวน 10 ล้านบาท และ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่บริจาครวม 7.2 ล้านบาท เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 เป็นที่รับรู้กันในทางกฎหมายว่าเป็นสามีภรรยากัน เปรียบเสมือนเป็นบุคคลคนเดียวกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การทำนิติกรรมสัญญาที่ผูกพันตามสัญญาจะต้องได้รับการยินยอมจากสามีหรือภรรยาก่อน

 

“หากถือเป็นบุคคลเดียว กัน การกระทำดังกล่าวถือว่าขัดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 66 ที่กำหนดให้บุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี และห้างหุ้นส่วนบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อปี อาจเป็นเหตุให้นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองที่รับบริจาคนั้นได้”

ลองมาดูยอดเงินบริจาคของพรรคอนาคตใหม่กันบ้าง จากการตรวจสอบรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินแก่พรรคการเมืองของสำนักงานกกต. ช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561-มกราคม 2562 มีผู้บริจาคให้พรรคอนาคตใหม่ 44 ราย รวมเป็นเงินเกือบ 40 ล้านบาท

ปรากฏชื่อของนายธนาธร บริจาคเงินเข้าพรรคในปี 2561 รวม 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม บริจาค 8 ล้านบาท อีกครั้งจำนวน 2 ล้านบาทเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ทั้งปีบริจาคเงินเข้าพรรครวม 10 ล้านบาท

นางรวิพรรณ ภรรยา ควักกระเป๋าบริจาคเงินเข้าพรรคเฉพาะเดือนธันวาคม 2561 รวม 3 ครั้ง ในวันที่ 11 ธันวาคม 2 ล้านบาท วันที่ 12 ธันวาคม อีก 4 ล้านบาท และในวันที่ 13 ธันวาคมอีก 1.2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 7.2 ล้านบาท

หันมาที่ “กรรมการบริหารพรรค” กันบ้าง เริ่มที่ นางจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหารพรรค บริจาค 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 1 ล้านบาท วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 อีก 5 แสนบาท และในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 อีก 5 แสนบาท

 

นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค บริจาครวม 2 ล้านบาท ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 บริจาค 1 ล้านบาท และอีก 1 ล้านบาทในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ล่าสุดเขาถูกแต่งตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ประจำตัว ส.ส.ของนายธนาธร

 

เงินกู้-เงินบริจาค  จุดดับ‘อนาคตใหม่’

 

ขณะที่ นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรค ปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ชำนาญการประจำตัว ส.ส.ของนายธนาธร บริจาค 2 ครั้งรวม 4 ล้านบาท ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 จำนวน 3.5 ล้านบาท อีกครั้งในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561จำนวน 500,000 บาท ถ้าจำกันได้เขาผู้นี้คือ คนลงนามในสัญญากู้เงินกับนายธนาธร ที่มีนายปิยบุตร แสงกนกกุล และ นายพุฒิพงศ์ พงศ์อเนกกุล เป็น พยานในการทำสัญญากู้เงิน 161.2 ล้านบาท ที่พรรคอนาคตใหม่ โดยนายนิติพัฒน์ เป็นผู้ทำสัญญา กู้เงินฉบับลงวันที่ 11 เมษายน 2562 จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งพรรคตกลงจะชำระเงินกู้ให้นายธนาธรภายใน 1 ปี คิดดอกเบี้ย 2% ส่วนนางสาวพรรณิการ์ โฆษกพรรคนั้นบริจาคเงินเข้าพรรค 1 ล้านบาทในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561

นอกจากนี้ยังมีนายฉัตรชัย วิศวจรรยา ผู้ถือหุ้น GIFT บริษัททำธุรกิจผลิต จัดหา พัฒนาและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สำหรับการผลิตสินค้าสำเร็จรูปที่บริจาคให้พรรค 3 ล้านบาท

อีกราย คือ นายอนันต์ ชัยสุริยเทพกุล ผอ.ฝ่ายไอทีของพรรค บริจาค 1.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ขณะที่ นายอุดม เปรมจิตต์ชื่น รับจ้างเคาะพ่นสี บริจาคเงินเข้าพรรค 1 ล้านบาท ในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 ซึ่งมากกว่า นายสกุลธร น้องชายของธนาธรที่เข้ามาสืบ ทอดกิจการชิ้นส่วนยานยนต์บริจาคให้พรรคแค่ 30,000 บาทเท่านั้น

เปิดศักราชใหม่ 2562 นางวนิดา แดงทองดี มารดานางรวิพรรณ บริจาคเข้าพรรค 5 ล้านบาท ในวันที่ 20 มกราคม ตามด้วย นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ เจ้าของธุรกิจสีทีโอเอ บริจาค 1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562

ถึงตรงนี้ต้องไม่ลืมว่า มีอีกคดีสำคัญที่อยู่ในมือ “กกต.” ที่มีผลต่ออนาคตของนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่เช่นกัน คือกรณีที่นายธนาธร ให้เงินพรรคยืม 110 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ขัดมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เช่นกัน เนื่องจากรายได้ของพรรคการเมืองตาม ม.62 ของกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ระบุให้บุคคลใด หรือให้พรรคการเมืองใดสามารถกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจกรรมของพรรคการเมืองได้

 

ทั้งนี้ พ.ร.ป.พรรคการ เมืองปี 2560 มาตรา 62 กำหนดประเภทของรายได้ของพรรค การเมืองไว้ 7 ช่องทาง คือ 1. จากเงินทุนประเดิมตามมาตรา 9 วรรคสอง (ทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองทุกคนต้องร่วมกันจ่ายเพื่อเป็นทุนประเดิมคนละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกินคนละ 50,000 บาท)

2. เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามที่กำหนดในข้อบังคับ 3. เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรค 4. เงิน ทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค 5. เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุน และ 7.ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง

ถ้าการดำเนินการของธนาธร ขัดกฎหมายข้างต้น อาจมีความผิดตาม ม.124 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่ เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี

ส่วนพรรคอนาคตใหม่ บทลงโทษตาม ม.125 พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งยุบพรรคได้

ทั้งเรื่อง “เงินกู้-เงินบริจาค” กลายเป็น 2 เงื่อนปมสำคัญที่กำลังบีบรัด นายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ ที่อาจส่งผลทั้งถูกเพิกถอนสิทธิการเมืองและยุบพรรคอนาคตใหม่ รอเพียงกระบวนการตรวจสอบดำเนินไปตามขั้นตอนเท่านั้น 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3518 หน้า 16 วันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2562

เงินกู้-เงินบริจาค  จุดดับ‘อนาคตใหม่’