“สมคิด”จี้มหา”ลัย ผนึกเอกชน เร่งผลิตคนป้อนอีอีซี

29 ต.ค. 2562 | 03:31 น.

“สมคิด” มอบนโยบายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จับมือเอกชน เร่งผลิตกำลังคนตอบโจทย์พัฒนาประเทศ สอวช. รับลูก เดินเครื่องลิสต์ทักษะที่จำเป็นในอนาคต พร้อมอัดสิทธิประโยชน์เพิ่มแรงจูงใจ

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

     วานนี้ (28 ตุลาคม 2562) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถ.ศรีอยุธยา (สป.อว.)  ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์           รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มอบนโยบายในการประชุมหารือเรื่อง การผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา โดยการประชุมหารือในครั้งนี้มีการนำเสนอนโยบายและทิศทางการพัฒนากำลังคน โดย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ.ดร.วิโรจน์  ลิ้มไขแสง ประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ผศ.ดร.เรืองเดช วงศ์หล้า ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 

 

     ดร.สมคิด กล่าวว่า การเชิญมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาประชุมในครั้งนี้ เพื่อรับทราบนโยบายการผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และให้แต่ละมหาวิทยาลัยได้รับทราบความต้องการกำลังคนของตลาดและพิจารณาสัดส่วนการผลิตกำลังคนในปัจจุบันว่าเหมาะสมหรือไม่ ต้องปรับอย่างไร หลักสูตรเดิมสามารถคงอยู่ได้ แต่ต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันภาคเอกชนเองก็ต้องเข้ามาร่วมผลิตกำลังคนร่วมกับมหาวิทยาลัย พูดคุยกันว่ามีความต้องการอย่างไร เพื่อจะเป็นแนวทางในการผลิตกำลังคนร่วมกันเพื่อให้ตอบโจทย์เป้าหมาย โดยมีบีโอไอ ช่วยดูแลสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยได้มอบหมายให้ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) เป็นหน่วยงานกลางในการประสานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวในการผลิตกำลังคนเพื่อตอบโจทย์ประเทศ 

“สมคิด”จี้มหา”ลัย ผนึกเอกชน เร่งผลิตคนป้อนอีอีซี

     “หลายมหาวิทยาลัยมีทรัพยากร มีหลักสูตรพร้อม แต่ต้องดูว่าตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่ บุคลากรที่ผลิตออกมามีคุณภาพสามารถใช้ได้ทันต่อความต้องการหรือไม่ ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ได้เชิญภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะจะได้รู้ความต้องการอย่างแท้จริง สิ่งที่เราทุกคนต้องทำในวันนี้คือ ตอนนี้ประเทศเรามีความต้องการกำลังคนเท่าไหร่ มหาวิทยาลัยมีศักยภาพในการผลิตกำลังคนเท่าไหร่เพียงพอหรือไม่ และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างไร และนำทุกอย่างมาแมทช์ชิ่งกัน เพื่อจะได้การผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ หรือ Manpower Planning ใน 5 ปี” ดร.สมคิด กล่าว

 

“สมคิด”จี้มหา”ลัย ผนึกเอกชน เร่งผลิตคนป้อนอีอีซี

     ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการ สอวช. เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการพัฒนากำลังคนตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ทันต่อความต้องการเร่งด่วนด้านการลงทุน ซึ่งการรอกำลังคนที่จบวุฒิปริญญาจะไม่ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลอดจนทักษะที่ได้จากวุฒิการศึกษาอาจตอบโจทย์ได้ไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของสถานประกอบการ กระทรวง อว.ซึ่งมีหน้าที่ดูแล และพัฒนากำลังคน จึงมีนโยบายในการพัฒนากำลังคนกลุ่ม Non-Degree เพื่อเป็นการ Upskill, Reskill รองรับการลงทุน เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพสูง 100,000 คน ที่พร้อมสำหรับความต้องการของอุตสาหกรรมทั้งในพื้นที่อีอีซี นอกพื้นที่อีอีซี ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรม S-curve และอุตสาหกรรมเศรษกิจใหม่  BCG ทั้งนี้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3 ที่ประชุมได้มอบหมายให้ อว. และ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำหนดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมาย เพื่อให้ภาคเอกชนขอสิทธิประโยชน์ทางภาษี 2.5 เท่า โดยต้องเป็นหลักสูตรที่ อว. และ อีอีซีรับรอง และต้องไม่ซ้ำกับมาตรการสิทธิประโยชน์ภาษี 2 เท่าที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ มาตรการนี้จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีถึง 31 ธ.ค. 63 แต่ไม่จำเป็นต้องฝึกอบรมให้เสร็จภายในปี 63 

 

     “สอวช. อยู่ระหว่างเร่งมือในการจัดทำรายละเอียดทักษะที่จำเป็นในอนาคต โดยจัดทำรายละเอียดทั้งในส่วนตำแหน่งงาน และสมรรถนะ คุณลักษณะที่จำเป็น ของตำแหน่งงานนั้นๆ โดยเมื่อจัดทำรายละเอียดเสร็จ ก็จะมีการเปิดรับหน่วยงาน และสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนที่สามารถจัดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมายตามที่กำหนดมาลงทะเบียนยื่นคำขอ เพื่อให้ อว. พิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงาน RTO (Registered Training Org.) และรับรองหลักสูตร เมื่อสถานประกอบการส่งบุคลากรมาอบรมหลักสูตรตามที่ได้รับการรับรอง สถานประกอบการสามารถขอยกเว้นภาษีนิติบุคคลประเภทค่าใช้จ่ายฝึกอบรมได้ 2.5 เท่า จากกรมสรรพากร ส่วนสถานประกอบการที่มีความต้องการจ้างงานใหม่บุคลากรทักษะสูงด้าน STEM  ก็สามารถแจ้งตำแหน่งงาน และโปรไฟล์บุคลากรที่ต้องการจ้างงานมายัง อว. เพื่อพิจารณารับรอง และเมื่อรับรองแล้วสถานประกอบการสามารถขอยกเว้นภาษีนิติบุคคลประเภทค่าใช้จ่ายการจ้างงานใหม่บุคลากรทักษะสูงด้าน STEM ได้ 1.5 เท่า จากกรมสรรพากร โดยการดำเนินงานลักษณะนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการ Upskill Reskill ให้กับบุคลากรบริษัทให้มีสมรรถภาพในการทำงานที่ตอบโจทย์ตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และยังเป็นแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่งด้วย” ดร.กิติพงค์ กล่าว

 

“สมคิด”จี้มหา”ลัย ผนึกเอกชน เร่งผลิตคนป้อนอีอีซี

ผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางในการพัฒนากำลังคนกลุ่ม Non-Degree เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาในอนาคตนอกเหนือจากหลักสูตรการศึกษาเพื่อปริญญา โดย สอวช. มีแนวคิดในการจัดทำเป็น Sandbox ในลักษณะการพัฒนากำลังคนตามความต้องการ โดยมีสถานประกอบการและมหาวิทยาลัยร่วมกับพัฒนาโมดูล/หลักสูตร และเสนอให้ อว. พิจารณารับรอง ซึ่งสถานประกอบการ หรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรใดที่ได้รับการรับรองได้ และยังสามารถสะสมหน่วยกิต ตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อขอรับปริญญาได้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว อยู่ระหว่างการขึ้นรูป ซึ่งต้องคำนึงถึงกลไกต่างๆ ที่จะเข้ามารองรับ ทั้งระบบสะสมหน่วยกิต ระบบรับรองหน่วยงาน/หลักสูตรฝึกอบรม และระบบเงินสมทบสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ