‘ธนาธร’ไม่หวั่นลูกพรรคแห่ลาออก รับอุดมการณ์ไม่ตรงกัน

28 ต.ค. 2562 | 07:09 น.

 "ธนาธร"ไม่หวั่นอดีตผู้สมัครส.ส.แห่ลาออก  ยอมรับอุดมการณ์ไม่ตรงกัน โยนกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครสั้น  ชี้เวลาพรรคมีปัญหาจะถูกนำไปขยายผลหวังดิสเครดิต

 

‘ธนาธร’ไม่หวั่นลูกพรรคแห่ลาออก  รับอุดมการณ์ไม่ตรงกัน

     วันที่ 28 ต.ค.2562  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.)  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมาชิกพรรคและอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ยื่นใบลาออก ซึ่งจะมีผลอะไรกับพรรคหรือไม่ ว่า เป็นสิทธิของสมาชิกทุกท่าน เรามองว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับพรรค พรรค อนค.มีสมาชิก 6 หมื่นคน ยืนยันที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับสมาชิก ให้สมาชิกมีบทบาท มีสิทธิ มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย เราไม่มีอะไรกังวลใจ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเรา ว่าเราจะสร้างพรรคที่ยึดโยงกับประชาชน ยึดโยงกับสมาชิกได้จริงหรือไม่

 

      “อย่างที่ผมยืนยันมาตลอดว่า การสร้างพรรคเพียงแค่ 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา มันไม่มีอะไรทำได้สมบูรณ์แบบ มันไม่มีทางที่จะสร้างพรรคที่เข้มแข็ง ที่เติบโตเร็วขนาดนี้อย่างสมบูรณ์แบบได้ในเวลา 1 ปีครึ่ง ดังนั้นประสบการณ์ต่างๆ ความผิดพลาดต่างๆ เราก็รับเข้ามาเรียนรู้ ปรับปรุง เพื่อที่จะสร้างพรรคให้เข้มแข็งมากขึ้นกรณีที่มีอดีตผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงสมาชิกท่านอื่นที่ไปลาออกจากสมาชิกพรรคในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นกระบวนการตามปกติ ไม่ได้ทำให้พวกเราหวั่นไหวสั่นคลอน ก็ขอเดินหน้าต่อ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์พวกเราว่าจะสร้างพรรคที่เข้มแข็งได้หรือไม่” นายธนาธร กล่าว

 

     ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่ามีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่พอใจการบริหารของคณะกรรมการบริหารพรรค นายธนาธร กล่าวว่า สมาชิกกี่คน 50 คน ต้องเรียนอย่างนี้ พอเราเข้ามาทำการเมือง แน่นอนที่สุดตอนเลือกผู้สมัคร ส.ส.เข้ามา เรามีเวลาสั้นมาก กว่าที่เราจะได้รับรองเป็นพรรคเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เลือกตั้ง มี.ค. เราใช้เวลาแค่ 2 เดือน ในการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมา กระบวนการที่สั้นทำให้เราไม่สามารถที่จะคัดกรองคนที่มีอุดมการณ์ คนที่มีหลักการ คนที่เชื่ออย่างพรรคได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้

 

     “ดังนั้นเมื่อเวลาเดินเข้ามา สถานการณ์และเวลาก็พิสูจน์คนว่าใครยืนหยัดร่วมกับพรรค ว่าใครมีอุดมการณ์ตรงกับพรรค ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมคิดว่าทุกพรรคการเมืองก็เป็นอย่างนี้ เมื่อกาลเวลาเดินผ่านไปก็มีคนเดินเข้าและมีคนเดินออกตามปกติของการเดินทาง สิ่งที่ผมยังยินดี สิ่งที่ผมยังดีใจก็คือ ทุกวันนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ขอเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มีคนเป็นจำนวนมากอยากเข้ามาร่วมทำงานกับเรา ไม่ว่าจะเป็นงานนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นงานสร้างพรรค ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรค เราไม่มองว่าเป็นปัญหาสำหรับการก้าวต่อไปของเรา” นายธนาธร กล่าว

 

     เมื่อถามว่ามีการมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรค นายธนาธร กล่าวว่า คงเป็นธรรมดา โดยเฉพาะในจังหวะที่พรรคอนาคตใหม่กำลังถูกผู้มีอำนาจตั้งใจจะทำร้าย ตั้งใจจะลดความน่าเชื่อถือของแกนนำพรรค ต้องการจะดิสเครดิตเรา เมื่อเกิดอะไรที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ถามจริงถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอื่นๆ จะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้หรือไม่ ท่านลองคิดลองตัดสินเรื่องนี้ด้วยใจเป็นธรรม พรรคอื่นมีเหตุการณ์อย่างนี้หรือไม่ ทุกท่านน่าจะรู้คำตอบอยู่ว่าพรรคไหนมีเหตุการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคอย่างไรบ้าง พอพรรคอนาคตใหม่มีปัญหาภายในก็ถูกนำมาจู่โจม ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ขอให้มองสถานการณ์การเมืองอย่างเป็นธรรม

 

     สำหรับแกนนำพรรค พวกเรายืนหยัดมั่นคงกับทิศทางของเรา ส่วนปัญหาต่างๆ ที่ถูกนำไปขยายผลเพื่อโจมตีดิสเครดิตพรรคและแกนนำพรรค ขอวิงวอนให้ประชาชนมองเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ด้วยความเป็นธรรม ตนยกตัวอย่างกรณีข้อกฎหมายที่เราโดน 20 กว่ากรณี ทั้งที่อยู่ในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในศาลรัฐธรรมนูญ ในชั้นตำรวจ อัยการ คดีต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกเราเสียเวลามากมาย แทนที่ตนจะได้เอาเวลาเช้าวันนี้เตรียมตัวประชุมกรรมาธิการงบประมาณช่วงบ่าย ก็ต้องเดินทางมาที่นี่

 

     “คำถามที่ผมอยากจะถามกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา อยากให้ทุกท่านช่วยคิดพิจารณา การตั้งพรรคการเมือง ทำงานการเมือง เพื่อการเปลี่ยนแปลงในระบบในรัฐสภา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้ มันเป็นผิดบาปมากหรืออย่างไร มันเป็นผิดบาปมากขนาดนี้หรือเปล่า ก็ขอให้ทุกท่าน ฝากให้ทุกท่านช่วยคิดพิจารณาคำถามเมื่อสักครู่อย่างจริงจัง” นายธนาธร กล่าว