ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ

28 ต.ค. 2562 | 04:36 น.

 

 

 

 

 

 

 

ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ

กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพมหานคร หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ

ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ

ติดตั้งนาฬิกาประจำสถานีกลางบางซื่อ  พร้อมออกแบบเป็นพิเศษ บนหน้าปัดมีเลข ๙ เพียงเลขเดียว  ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙  แล้ว

ยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าให้เข้ามาชื่มชม เก็บภาพเป็นที่ระลึก จุดเช็คอิน   ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ

ขณะเดียวกัน สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นศูนย์กลางคมนาคมทางรางที่ใหญ่ ทันสมัยที่สุดในอาเซียน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 300,000 คนต่อวัน ตลอดจนเชื่อมต่อระบบการคมนาคมอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รถไฟความเร็วสูง รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ ซึ่งเป็นการพลิกโฉมการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศไทยที่จะเปิดให้บริการประมาณต้นปี2564  ล่าสุดการก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 80% และควมพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง  ได้ทยอยถึงโรงซ่อมบำรุง ภายในถานีกลางบางซื่อแล้ว   

  ชู”นาฬิกา  ร  ๙ “แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ  นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์  การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้การรถไฟฯ ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งนาฬิกาประจำสถานี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถานีฯ แล้ว โดยนำชิ้นส่วนมาประกอบและติดตั้งตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2562 และอยู่ระหว่างการดำเนินการทดสอบระบบ

สำหรับนาฬิกาที่สถานีกลางบางซื่อได้มีการออกแบบเป็นพิเศษ โดยบนหน้าปัดมีเลข ๙ เพียงเลขเดียว เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตัวเรือนนาฬิกามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร ติดตั้งบนผนังกระจกของทางเข้าสถานี สูงจากระดับพื้นดิน 21 เมตร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในหลายๆสัญลักษณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสถานีกลางบางซื่อ