ยึด‘นครปฐมโมเดล’ เพิ่มเสียงส.ส.ขั้วรัฐบาล

27 ต.ค. 2562 | 03:00 น.

 

ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 นครปฐม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นักการเมืองรุ่นเก๋า เข้าวินคว้าชัยมาได้เป็นว่าที่ส.ส.สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ขั้วรัฐบาลคนล่าสุด ด้วยคะแนนเสียง 37,675 คะแนน ทิ้งห่าง นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร สามีนางจุมพิตา อดีตส.ส.นครปฐม แชมป์เก่าที่ลาออกไปเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ลงเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ 28,216 คะแนน ขณะที่นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นลำดับ 3 ได้ 13,061 คะแนน

การคว้าชัยในครั้งนี้ไม่ธรรมดา แต่ได้มีการออกแบบและจัดวางยุทธวิธีไว้แล้วอย่างดีตั้งแต่ต้น การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย หลบฉากให้กับอนาคตใหม่ ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่ง ขัน ขณะที่ พลังประชารัฐ ก็ถอย ฉากให้กับ ชาติไทยพัฒนา ที่ส่ง นายเผดิมชัย เจ้าของพื้นที่และผู้สมัครส.ส.คนเดิมลง “ล้างตา”

หากย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีผู้สมัครรับเลือกเป็น ส.ส.ทั้งหมด 23 พรรค ในครั้งนั้น นายเผดิมชัย ได้ 12,279 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 4 ขณะที่ นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว ผู้สมัครจากพลังประชารัฐ ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 3 ที่ 18,741 คะแนน รองจากนางจุมพิตา พรรคอนาคตใหม่ที่ได้ 34,164 คะแนน และนายสุรชัย พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 18,970 คะแนน

เป็นที่น่าสังเกตว่า หากนำคะแนนของนายระวัง ผู้สมัครจากพลังประชารัฐ ครั้งก่อน มารวมกับคะแนนเดิมของนายเผดิมชัย ผู้สมัครจากชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีคะแนนใกล้เคียงกับผลคะแนนเสียงที่นายเผดิมชัย ได้ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ในขณะที่ นายไพรัฏฐโชติก์ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ คะแนนลดลงเกือบ 6,000 คะแนน

วันนี้นายเผดิมชัย ขึ้นแท่นเป็นว่าที่ ส.ส.รายล่าสุด เติม 1 เสียงให้กับ “ขั้วรัฐบาล” ขยับเป็น 255 เสียงจากเดิมที่มีอยู่ 254 เสียง แต่ขั้วรัฐบาลก็ยังต้องการแต้มเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงจาก “เสียงปริ่มนํ้า” ในการเลือกตั้งซ่อมที่อาจจะมีตามมาอีก

เริ่มกันที่เขต 7 ขอนแก่นที่คาดว่า จะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อศาลจังหวัดขอนแก่นตัดสินประหารชีวิต นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ในคดีจ้างวานฆ่าอดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว จนต้องถูกคำสั่งขังโดยหมายของศาล ซึ่งขณะนี้รอความชัดเจนว่า นายนวัธ สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.แล้วหรือไม่ จาก “ศาลรัฐธรรมนูญ”

หากชัดเจนแล้วว่า นายนวัธ สิ้นสภาพส.ส. ทางกกต.ต้องจัดให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง

 

ล่าสุด “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ประกาศท้ารบสนามเลือกตั้งขอนแก่นว่า  จะส่งผู้สมัครลงสมัครด้วยเพราะพรรคอยากจะได้พื้นที่ทางภาคอีสาน โดยวางตัว นายสมศักดิ์ คุณเงิน เป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคไว้แล้ว

 

ยึด‘นครปฐมโมเดล’  เพิ่มเสียงส.ส.ขั้วรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

 

สำหรับผลการเลือกตั้งเขต 7 ขอนแก่นที่ผ่านมา คะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก นายนวัธ ชนะเลือกตั้งได้เป็นส.ส.ด้วย 29,710 คะแนน นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพลังประชารัฐ ได้ 26,553 คะแนน และ นายสมควร ไกรพน ของอนาคตใหม่ได้ 12,414 คะแนน

การเลือกตั้งใหม่หากเกิดขึ้น พลังประชารัฐ จะส่ง นายสมศักดิ์ ลงแก้มืออีกครั้ง ขณะที่เพื่อไทย ที่ยังไม่เชื่อว่า นายนวัธ พ้นจากเก้าอี้ส.ส. จึงยังไม่มีกระแสข่าวว่าจะส่งใครลงแทน เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ ในเขตนี้ยังดูไม่ออกว่าระหว่างตัวแทนฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล ใครกันแน่ที่จะเข้าวิน แต่หาก “ฝ่ายรัฐบาล” ร่วมมือร่วมแรงกัน ก็ ไม่แน่ อาจคว้าเก้าอี้ส.ส.ไปครองได้เหมือนกัน

หันไปดูอีกเขตที่อาจจะ มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น เมื่อ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส. เขต 5 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ถูก กกต.ให้ใบเหลืองจากเหตุบุคคลใกล้ชิด ใส่ซองช่วยงานศพ แต่การเลือกตั้งใหม่ในเขตนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องรอคำตอบสุดท้ายจาก “ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง”

สำหรับเขต 5 สมุทรปราการ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ผลปรากฏ 3 อันดับแรก คือ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ชนะอันดับ 1 ได้ 41,745 คะแนน นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ จากเพื่อไทย ได้ 33,007 คะแนน และนายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ จากอนาคตใหม่ได้ 31,430 คะแนน

เขตนี้หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น น่าสนใจว่า นายกรุงศรีวิไล ยังจะเอาตัวรอดได้กลับเข้ามาเป็นส.ส.อีกหรือไม่

ไปที่เขตสุดท้ายที่คาดว่าน่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น คือ ที่เขต 2 จ.กำแพงเพชร เมื่อ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ จะถูกศาลพิพากษาในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ในคดีบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อปี 2552

 

ก่อนหน้านี้แกนนำนปช.คน อื่นๆ ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา จึงเชื่อกัน ว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ ก็ไม่น่าจะรอด

สำหรับเขต 2 กำแพงเพชร ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท. ไวพจน์ ชนะเป็นอันดับ 1 ด้วย 34,271 คะแนน ทิ้งห่างจาก นายอดุลรัตน์ แสงประชุม จากเพื่อไทย ที่ได้ 18,626 คะแนน และ นายสุขวิชชาญ มุสิกุล ของประชาธิปัตย์ที่ได้ 13,261 คะแนน

ในการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าพลังประชารัฐจะส่ง นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ลูกชาย พ.ต.ท.ไวพจน์ ลงรักษาแชมป์ ส่วนฝ่ายค้าน เพื่อไทยและอนาคตใหม่ ยังจะส่งคนเดิมลงทั้งคู่หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

การเลือกตั้งส.ส.ที่จะเกิดขึ้นใหม่ครั้งนี้ ยังจะถือเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างตัวแทนฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคร่วมฝ่าย ค้าน เป็นการพิสูจน์ว่าประชาชนจะให้ความนิยมฝ่ายใดมากกว่ากัน และจะมีผลต่อเสียง “รัฐบาลปริ่มนํ้า” ให้ดีขึ้นหรือไม่

สถานการณ์วันนี้ “ขั้วรัฐบาล” นอกจากจะต้องรักษาเก้าอี้เดิมเอาไว้ให้มั่นเพื่อคง จำนวนเสียง ส.ส.ให้ได้แล้ว การมีมาเพิ่มในมืออีกสัก 1-2 ที่นั่ง ก็น่าจะทำให้อุ่นใจขึ้นได้เมื่อต้องใช้เสียงโหวตเรื่องสำคัญๆ กัน ในสภา 

 

รายงาน โดย ทีมข่าวการเมือง

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3517 หน้า 16 วันที่ 27-30 ตุลาคม 2562

ยึด‘นครปฐมโมเดล’  เพิ่มเสียงส.ส.ขั้วรัฐบาล