อสมท ปรับลุคปั้นรายได้ทุกแพลตฟอร์ม

29 ต.ค. 2562 | 06:30 น.

อสมท ยกเครื่องภาพลักษณ์สู่ Total Communication Solutions พร้อมเปิดช่องทางหารายได้เพิ่มทั้งจากที่ดิน คอนเทนต์ บนแพลตฟอร์มออนไลน์-ออฟไลน์

นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันอสมท กำลังปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ ให้คนทั่วไปเข้าใจว่าอสมท ไม่ได้ทำเพียงแค่เฉพาะธุรกิจทีวีหรือสื่อเท่านั้น แต่อสมท เป็นผู้ให้บริการ Total Communication Solutions แบบครบวงจรให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันสื่อดั้งเดิมที่อสมท มีอยู่ทั้งหมด จะพยายามนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรมาพัฒนา หรือใช้ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ในอีกด้านอสมทก็วางแผนหาช่องทางรายได้ใหม่ๆ จากกลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ที่ดิน และธุรกิจฐานข้อมูล (Data Information)

สำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้อสมท อยู่ในช่วงวางแผนพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว โดยเริ่มพัฒนาที่ดินบริเวณถนนรัชดาฯ แล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำ TOR โดยคาดว่าภายในสิ้นปีจะได้คณะที่ปรึกษาเข้ามาร่าง TOR จากนั้นในไตรมาสแรกปี 2563 จะเปิดให้นักลงทุนเข้ามาเจรจา และถัดไปจึงจะเริ่มเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ (Market Sounding) อีกทั้งอสมท ยังได้เตรียมพัฒนาที่ดินซึ่งเป็นสินทรัพย์ของ อสมท อีก 2 แห่งคือ พื้นที่บางไผ่ (ปัจจุบันเป็นพื้นที่ตั้งเสาวิทยุ AM) มีขนาดพื้นที่ 60 ไร่ และพื้นที่ย่านหนองแขม ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของช่อง 3 โดยจะหมดสัญญาในช่วงต้นปีหน้า

 

“ปัจจุบันเป็นองค์กรภาครัฐที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุน แต่จำเป็นต้องแข่งกับผู้ประกอบการเอกชน ดังนั้นอสมท จึงจำเป็นต้องกลับมาทบทวนแผนยุทธศาสตร์ของอสมท ทั้งหมดและต้องคิดเผื่อในระยะยาว 1-3 ปี ซึ่งสิ่งแรกที่อสมท จะทำจากนี้คือการรักษาสื่อหลัก ให้มีมาตรฐานและเข้าถึงผู้ชมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ๆ มากขึ้นพร้อมทั้งสร้าง Content จำหน่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

อสมท ปรับลุคปั้นรายได้ทุกแพลตฟอร์ม

นอกจากเรื่องของการเพิ่มช่องทางรายได้การพัฒนาที่ดินแล้วอสมท ยังได้วางแผนหาช่องทางใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาจากสื่อไปสู่การให้บริการด้านข้อมูล (Data Information) ซึ่งในอนาคตการให้บริการข้อมูลจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากในปัจจุบันข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตมีจำนวนมากและมีเม็ดเงินโฆษณาที่เติบโตสูงโดยมีมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท

โดยอสมท ได้เริ่มขยายบริการสู่ช่องทางแพลตฟอร์มใหม่ ล่าสุดเปิดตัวแอพพลิเคชัน WHAM เพื่อสร้าง Ecosystem ให้กับวงการ ศิลปิน และคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถสอดรับกับตลาดด้าน Digital Music และ Music Streaming ที่มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดมากขึ้นในทุกปี อีกทั้งพบว่าปัจจุบันมีคนไทยที่ฟังเพลงบนช่องทางออนไลน์มากกว่า 10 ล้านคน และรับชม MV ใหม่ๆ ในโลกโซเชียลมากกว่า 100 ล้านวิวต่อปี รวมทั้งรายได้จากการถ่ายทอดสดงานระดับชาติและพระราชพิธีต่างๆ ประมาณ 30 งานต่อปี

ปัจจุบันอสมทมุ่งขยายฐานผู้ชมกลุ่มใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมและพยายามวางกลยุทธ์รายการให้สัมพันธ์กับเม็ดเงินในตลาดและต้นทุน ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนรายการบันเทิง 39% ข่าวและรายงานสถานการณ์ 37% สาระและความรู้ 8% กีฬา 8% และสาระบันเทิง 8% ทำให้สัดส่วนการผลิตรายการ ในปัจจุบันแบ่งเป็นรายการที่สถานีผลิตเอง 64% sharing 14% และเช่าเวลา 22% โดยเริ่มทยอยปรับผังรายการมาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

อสมท ปรับลุคปั้นรายได้ทุกแพลตฟอร์ม

\                   เขมทัตต์ พลเดช

ทั้งนี้อสมท ยังคงให้ความสำคัญกับเนื้อหารายการที่มีความเข้มข้น เช่น รายการภาคเช้าที่เน้นความเข้มข้นของเนื้อหาข่าวเชิงวิเคราะห์และเปิดมุมมองเศรษฐกิจระดับโลก ทั้งเรื่องการค้า การลงทุน หุ้น ทั่วโลก ที่มีผลกระทบกับคนไทย พร้อมทั้งการวิเคราะห์ สัมภาษณ์จากกูรูผู้เชี่ยวชาญ

 

“ช่อง 9 อสมท กำลังทยอยปรับเนื้อหาด้วยการวางคอนเทนต์ระดับพรีเมียมในสถานี เพื่อวาง positioning ที่ชัดเจน ให้เป็น top of mind ด้าน content และ platform ทั้ง traditional media และ social media มากขึ้น ในอนาคต”

ด้านผลประกอบการของอสมท ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 เป็นผลจากการทำกำไรที่เกิดจากมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมฯ โดยมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจต่างๆ ดังนี้ ธุรกิจโทรทัศน์ 26% ธุรกิจวิทยุ 30% ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (BNO) 20% ธุรกิจร่วมดำเนินกิจการ (สัมปทาน) 20% ธุรกิจดิจิทัล (โทรทัศน์ดาวเทียม MCOT Satellite Network และสื่อดิจิทัลต่างๆ ของ อสมท) ที่เหลืออื่นๆ ขณะเดียวกันรายได้รวมของธุรกิจโทรทัศน์และวิทยุ ยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 56% ของรายได้รวมทั้งหมด

 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3517 ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม 2562