กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส2 หวังเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ6 หมื่นล.
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบด้วย มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2, มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถประคับประคองเศรษฐกิจในภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ดีขึ้น
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3% ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น ยังบอกไม่ได้ ซึ่งยังต้องติดตามผลของมาตรการดังกล่าวในระยะต่อไปว่า ในไตรมาสต่อไปจะดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนได้หรือไม่ แต่หวังเม็ดเงินลงสู่ระบบ 6 หมื่นล้านบาทเหมือนเดิม”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ธนาคารปรับปรุงระบบเว็บไซต์การลงทะเบียนให้คล่องตัวมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาระบบหน่วงเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน ขณะนี้การยืนยันตัวตนเข้าแอพพลิเคชันนั้น จะง่ายมากขึ้น เพราะปรับปรุงระบบการยืนยันตัวตนได้ด้วยการสแกนการกะพริบตา ทำให้ที่ผ่านมาประชาชนยืนยันตัวตนได้ดีขึ้น
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าวว่า ธอส.เตรียมวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาซื้อขายไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย โดยการให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 2.5% ในช่วง 3 ปีแรก ปีที่ 4-ปีที่ 5 คงที่ 4.625% ต่อปี ส่วนปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้เงิน กรณีสวัสดิการ
MRR -1.00% ต่อปี กรณีรายย่อย MRR-0.75% เริ่มวันนี้-24 ธันวาคม 2563
“โครงการนี้นับเป็นดอกเบี้ยที่ตํ่าที่สุดในตลาด และยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยในช่วง 3 ปีแรก เช่น กรณีกู้ 1 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี แรก จะผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,300 บาทต่องวดเท่านั้น หากเทียบกับเงินงวดผ่อนชำระของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ ปกติในช่วง 3 ปีแรก วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผู้กู้จะสามารถประหยัดเงินงวดได้จำนวน 80,400 บาท หรือหากเทียบกับการผ่อนชำระอัตรา
ดอกเบี้ยสินเชื่อปกติในช่วง 5 ปีแรก ผู้กู้สามารถประหยัดเงินงวดได้ถึง 123,600 บาทด้วย”
หน้า 15 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3516 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562
