กฟผ.ตั้งบริษัทใหม่ รุกเทรดดิ้งซื้อขายไฟฟ้าตปท.

24 ต.ค. 2562 | 09:41 น.

บอร์ดกฟผ. เร่งถกปรับโครงสร้างองค์กร จัดตั้งบริษัทใหม่รองรับธุรกิจเทรดดิ้งซื้อขายไฟฟ้าต่างประเทศ  พร้อมเร่งรัดกก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี เร็วขึ้น 2 ปี

 

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย( กฟผ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ตุลาคม 2562 บอร์ด กฟผ. จะพิจารณาการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้คล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งบริษัทใหม่ รองรับธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า(เทรดดิ้ง) กับต่างประเทศ ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแก้พ.ร.บ.กฟผ.


กฟผ.ตั้งบริษัทใหม่  รุกเทรดดิ้งซื้อขายไฟฟ้าตปท.

                                              นายกุลิศ สมบัติศิริ

สำหรับธุรกิจเทรดดิ้งก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)นั้น จำเป็นต้องรอการแก้ไขกฎหมาย กฟผ. เนื่องจากปัจจุบันกำหนดให้ กฟผ. ใช้ LNG ในโรงไฟฟ้าของ กฟผ.เท่านั้น ปัจจุบันยังต้องรอผลการประมูล LNG ของ กฟผ. ในรูปแบบตลาดจร (Spot) ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 21 ตุลาคม 2562ที่ผ่านมา ที่มีมติให้ กฟผ. จัดหา LNG ปริมาณนำเข้า 2 ลำเรือ ลำเรือละ 6.5 หมื่นตัน ลำแรกนำเข้าเดือนธันวาคม 2562  และลำที่ 2 เดือนเมษายน  2563 โดยให้มีการทดสอบระบบการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ (TPA) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2562

 

ทั้งนี้ ในการนำเข้า LNG ในช่วงปลายปี 2562 นี้ ถือว่าราคายังไม่แพง แต่จะปรับสูงขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2563 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวของยุโรป ทำให้ความต้องการใช้ LNG เพิ่มขึ้น ซึ่งการเปิดประมูลคาดว่าจะได้ราคา LNG ในระดับที่ดี

กฟผ.ตั้งบริษัทใหม่  รุกเทรดดิ้งซื้อขายไฟฟ้าตปท.

ส่วนการเจรจาหาข้อยุติในการนำเข้า LNG ไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี ที่ กฟผ.เปิดประมูล และบริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี จำกัด ได้รับการคัดเลือก อยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่มีข้อสรุป ต้องพิจารณาถึงกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย กฟผ.เป็นผู้รับนโยบายมาปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พิจารณาถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

 

สำหรับกรณีการลงนาม กฟผ. ร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นั้น เพื่อร่วมมือในการทำงานร่วมกันในอนาคตนั้น ทาง กฟผ.จะกลับมาพิจารณาเพื่อรื้อแผนอีกครั้งว่าจะสามารถดำเนินการร่วมกันเรื่องใดได้บ้าง

 

 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เร่งรัดให้ กฟผ. ปรับแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี จำนวน 2 โรง รวมกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์  สร้างให้เร็วขึ้น 2-3 ปี จากเดิมสร้างเสร็จปี 2570 และ 2571 ให้ปรับให้สร้างเสร็จในปี 2568 และ 2569 คาดเงินลงทุนประมาณ 7 หมื่นล้านบาท  เนื่องจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ได้เสนอให้เร่งรัดการก่อสร้าง หลังจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ถูกชะลอไปโดยไม่มีกำหนด ขณะที่กำลังผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ไม่พอเพียงต่อความต้องการใช้ แม้จะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในภาคตะวันตกเพิ่มเติมแล้วส่งไฟฟ้าไปภาคใต้ก็ตาม ซึ่งกฟผ.จะเร่งปรับแผนว่าจะใช้ก๊าซฯจากที่ใด และจะนำเข้า LNG  มารองรับความต้องการได้อย่างไร รวมทั้งการก่อสร้างท่อก๊าซฯที่ส่งไปยังโรงไฟฟ้าจะเร่งดำเนินการอย่างไรต่อไปด้วย