เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

23 ต.ค. 2562 | 09:25 น.

กระทรวงเกษตรฯ เร่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด เผยกรมวิชาการเกษตรเตรียมหาสารเคมีอื่นและสารชีวภัณฑ์ทดแทนไว้แล้ว เตรียมเสนอครม. เยียวยาเกษตรกรซึ่งต้องแบกภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ด้านกรมวิชาการเกษตร เผยสต๊อก 3 สาร กว่าหมื่นตัน เตรียมทำลายอย่างปลอดภัย

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า จากผลการพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 มีมติแบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องใช้สารป้องกันกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้กรมวิชาการเกษตรรวบรวมสารชีวภัณฑ์มาส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ ส่วนพืชเศรษฐกิจที่ยังจำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชได้ให้หาสารอื่นมาทดแทน

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการดูแลเกษตรกรทั่วประเทศจึงจะเร่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาปัญหาของเกษตรกรและหาแนวทางแก้ไขให้ทั้งกรณีที่สารเคมีอื่นอาจมีราคาแพงกว่าหรือค่าแรงงานในการจัดการแปลง โดยหากต้องมีมาตรการ​ช่วยเหลือ​ด้านต้นทุน​การผลิต​ใดๆ​ แก่เกษตรกร​ต้องผ่านความเห็น​ชอบ​ของคณะรัฐมนตรี(ครม.)​ ก่อน

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า กำลังเร่งขับเคลื่อนมาตรการลดต้นทุนการผลิตได้แก่ การผลิตปุ๋ยสั่งตัดให้ตรงกับผลวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินซึ่งจะเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผลผลิต การส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่เนื่องจากการรวมกลุ่มกันจะทำให้เกษตรกรซื้อปัจจัยการผลิตได้ในราคาถูกลง กรณีที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อทำเกษตรอัจฉริยะ (Precision Farmimg) จะสามารถเข้าไปสนับสนุนได้อย่างทั่วถึง

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

นอกจากนี้จะเร่งขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เกษตรกรรมยั่งยืน พ.ศ. ... ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการตราเป็นกฎหมายบังคับใช้เร็วที่สุด โดยขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเกษตรกรรมยั่งยืนแล้วซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน แล้วจะเร่งเสนอร่างพ.ร.บ. เกษตรกรรมยั่งยืนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว เพื่อจะเดินหน้าทำเกษตรปลอดภัยเต็มรูปแบบในพื้นที่เกษตร 149 ล้านไร่ทั่วประเทศ

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

พร้อมกับตราพ.ร.บ. องค์กรเกษตรอินทรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นองค์กรทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำเกษตรในประเทศไทยให้ดำเนินตามศาสตร์พระราชาได้แก่ ทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ โดยดำเนินการผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) 882 แห่งทั่วประเทศ และศูนย์ถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่ 10,000 กว่าแห่ง รวมทั้งร่วมกับยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์  ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรเคมีไปเป็นเกษตรอินทรีย์ 1 ล้านไร่ โดยภายในปีนี้ ปี 63 จะทำให้ได้ 5 ล้านไร่ และจะขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในอัตราร้อยละ 25 ในปีต่อ ๆ ไป

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

“ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหน้าที่ดูแลทุกภาคส่วน สำหรับเกษตรกรต้องมีรายได้อย่างยั่งยืนและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ประชาชนคนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็น “ครัวของโลก” จึงต้องส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีคุณภาพและตรงความต้องการของตลาด ซึ่งรับปากว่า จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างดีที่สุด” นายเฉลิมชัยกล่าว

เร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรหลัง 3 สารถูกแบน

ด้านกรมวิชาการเกษตร รายงานสต๊อกปริมาณคงเหลือในที่เก็บรักษาของผู้นำเข้า ผลิต และร้านค้า รวม 3 สารเคมีข้างต้นมีทั้งหมดกว่า 1.3 หมื่นตัน แนวทางเบื้องต้นในการเก็บรวบรวมและทำลายอย่างปลอดภัย