ศาลปกครองสูงสุดสร้าง มาตรฐานประมูลงานรัฐ

23 ต.ค. 2562 | 11:00 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3516 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 24-26 ต.ค.2562 โดย...พรานบุญ

 

ศาลปกครองสูงสุดสร้าง!

มาตรฐานประมูลงานรัฐ

 

     อื้ออึงไปทั้งปฐพี เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีมติกลับคำตัดสินของ ศาลปกครองกลางในเรื่องการประมูลโครงการอู่ตะเภา 2.9 แสนล้านบาท จากเรื่องส่งเอกสารการประมูลช้ากว่ากำหนด 9 นาที ที่ผลการเปิดซองด้านราคาการประมูลสนามบินอู่ตะเภาอย่างไม่เป็นทางการนั้น

     ปรากฏว่า กลุ่ม BBS ซึ่งประกอบด้วย BTS, ซิโน-ไทย, บริษัท การบินกรุงเทพฯเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐด้วยมูลค่าหลักแสนล้านบาท เอาชนะคู่แข่ง คือ กลุ่ม Grand Consortium (Property Perfect, Christine Nelson, Air Asia) ที่มี “ไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์ศานต์” ยืนอยู่ข้างหลังฉาก และเสนอผลตอบแทนให้รัฐหลักหมื่นล้านบาทไปอย่างขาดลอย จะต้องกลับมาแข่งกับซีพีในนามธนโฮลดิ้งใหม่...

     พรานฯพาทุกท่านไปย้อนปม 3 ทุนใหญ่ ชิงเค้กอู่ตะเภา 2.9 แสนล้านบาท ที่เกิดข้อพิพาทยกฟ้องของศาลปกครองกลาง กับศาลปกครองสูงสุดกันแบบเต็มๆ ไม่มีเหนียมอาย...เชิญทัศนา..เรื่องราวที่อื้ออึงในพงไพรนิเวศน์

     21 สิงหาคม 2562 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 757/2562 หมายเลขแดงที่ 1066/2562 ระหว่าง บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 1 บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 2 บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 3 บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 4 และบริษัท โอเรียนท์ ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 5 คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ผู้ถูกฟ้องคดี

     คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ในนาม กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ได้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนดเปิดการยื่นซองในวันที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 9.00 นาฬิกา และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา 15.00 นาฬิกา ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ได้ยื่นซองข้อเสนอ ประกอบด้วย

     เอกสารซองที่ไม่ปิดผนึก เอกสารซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป เอกสารซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ เอกสารซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา และเอกสารซองที่ 4 ข้อเสนออื่น ๆ รวม 11 กล่อง พร้อมกล่องสำเนา และเจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกหลักฐานการยื่นซองข้อเสนอให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 แล้ว แต่ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือแจ้งผลการยื่นข้อเสนอว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ

     ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 เห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว คดีมีประเด็นวินิจฉัยว่า มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

     ศาลปกครองกลางพิเคราะห์ข้อเท็จจริงในคดีนี้รับฟังได้ว่า ในวันยื่นซองข้อเสนอเวลาประมาณ 12.21 นาฬิกา ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ได้นำข้อเสนอซองไม่ปิดผนึกมายังสถานที่รับซอง และเวลา 13.52 นาฬิกา ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ได้นำซองข้อเสนออีก 8 กล่อง เข้ามา ต่อมาในเวลา 15.00 นาฬิกา คณะทำงานรับและจัดเก็บเอกสารข้อเสนอตรวจสอบหมายเลขซองข้อเสนอที่ระบุบนกล่องข้อเสนอทั้งหมดของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ที่มาถึงสถานที่รับซองแล้ว พบว่า ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 มีความประสงค์ที่จะยื่นข้อเสนอจำนวนทั้งหมด 11 กล่อง

     แต่ข้อเสนอมีเพียง 9 กล่องเท่านั้นที่มาถึง โดยขาดข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 (ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ) และกล่องที่ 9 (ซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา) ต่อมา เวลาประมาณ 15.09 นาฬิกา ซองข้อเสนอ 2 กล่อง ได้แก่ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 มาถึงยังสถานที่รับซอง ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ยอมรับตามคำชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ส่งมอบเอกสารดังกล่าวล่าช้า เนื่องจากการจราจรติดขัด จึงรับฟังได้ว่า เอกสารซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 จำนวน 2 กล่อง ดังกล่าว มาถึงยังสถานที่รับซองภายหลังเวลา 15.00 นาฬิกา อันเป็นกำหนดเวลาปิดการรับซองตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (1) ของเอกสารการคัดเลือกฯ

 

     ผู้ถูกฟ้องคดีย่อมมีหน้าที่ปฏิเสธไม่รับกล่องดังกล่าวไว้พิจารณาในขั้นตอนต่อไปตามที่ระบุไว้ในข้อ 31 (3) โดยไม่สามารถพิจารณายกเว้นให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 เป็นกรณีพิเศษได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

     ดังนั้น มติของผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุม ครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ที่ไม่รับซองข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 กับฉบับสำเนา และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 กับฉบับสำเนา จึงชอบด้วยกฎหมาย

     ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5ไม่อาจรับฟังได้...ยกฟ้อง..ทุกคนว่าน่าจะจบ

     โบราณว่า สงครามไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ศาลปกครองสูงสุดพลิกคำตัดสิน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอ ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 กับฉบับสำเนา และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 กับฉบับสำเนา ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด (ผู้ฟ้อง) ที่นำโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และพันธมิตร เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ รับพิจารณาเอกสารดังกล่าวให้เป็นไปตามขั้นตอนการคัดเลือกต่อไป

     ศาลให้เหตุผลว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงพฤติการณ์ของการยื่นข้อเสนอในคดีนี้เห็นว่า การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอในคดีนี้ เป็นการยื่นข้อเสนอในโครงการขนาดใหญ่ เป็นที่คาดหมายตรงกันว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก การจะกำหนดให้มีการรับเอกสารเมื่อใดโดยวิธีการใด ต้องมีกระบวนการที่ชัดเจน ต้องกำหนดเป็นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการตรวจรับเอกสาร เพื่อให้ผู้ยื่นข้อเสนอได้รับทราบเป็นการล่วงหน้า

     แต่จากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์เกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีกระบวนการรับ ตรวจปริมาณของเอกสารอย่างชัดเจน แต่มีกระบวนการให้ผู้ยื่นข้อเสนอ แสดงตนว่าประสงค์จะเข้าร่วมการยื่นข้อเสนอด้วยการให้ลงทะเบียนก่อน จากนั้นจึงมีกระบวนการรับและตรวจเอกสารในลำดับถัดไป โดยการเรียกให้ผู้ยื่นข้อเสนอเข้าสู่กระบวนการรับและตรวจเอกสารทีละราย

     ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ได้เริ่มมีการตรวจเอกสารของกลุ่มกิจการร่วมค้า บีบีเอส เวลา 15.00 น. เป็นรายแรก จากนั้นจึงดำเนินการรับและตรวจเอกสารของกลุ่ม Grand Consortium และกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง ตามลำดับ ซึ่งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์เช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าได้มีการขยายระยะเวลา ซึ่งต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน ข้อ 31 (3) แต่มีความหมายที่แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยื่นข้อเสนอในครั้งนี้ ไม่ได้ยึดถือการขน หรือลำเลียง เอกสารใดให้ต้องผ่านจุดลงทะเบียนภายในเวลา 15.00 น. เพราะโดยสภาพผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายจะต้องลำเลียงเอกสารมาเป็นระยะๆ ในระหว่างนั้น

     นอกจากนี้ การที่ปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นนี้ว่าการเข้ายื่นเอกสารของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้งฯ เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ทำการตรวจสอบและรับเอกสารจนครบถ้วนเรียบร้อยในวันนั้นแล้ว โดยมีการออกเอกสารแบบฟอร์มตรวจสอบการจัดเก็บข้อเสนอโครงการ ให้แก่กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้งฯ ว่าได้ลงทะเบียนก่อน 15.00 น. และไม่ปรากฏว่ามีการทักท้วง หรือท้วงติงเกี่ยวกับเอกสารของกลุ่มในวันดังกล่าวแต่อย่างใด

     ส่วนการอ้างถึงรายงานของคณะทำงานรับ และจัดเก็บเอกสารข้อเสนอ ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นการทำรายงานขึ้นในขณะนั้น เป็นเพียงการอ้างในภายหลัง เช่นเดียวกับการอ้างถึงภาพถ่ายนิ่งที่ใช้อ้างว่ามีการลำเลียงเอกสารกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ผ่านจุดลงทะเบียนหน้าห้องรับรอง กองบัญชาการทหารเรือ ในเวลา 15.09 น. ก็เป็นการอ้างข้อเท็จจริงที่ได้รับมาภายหลังวันปิดรับซองเอกสารแล้ว

     เมื่อพิจารณาว่าเอกสารกล่องที่ 6 ซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ ซึ่งมีเอกสารฉบับจริงทั้งหมดจำนวน 4 กล่อง และเอกสารกล่องที่ 9 ข้อเสนอซองที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคา มีเอกสารจำนวน 1 กล่อง ซึ่งเอกสารทั้ง 2 ส่วน ไม่ใช่เอกสารที่กำหนดให้ต้องมีการเปิดซองของเอกสาร ณ ขณะนั้นด้วยแต่อย่างใด

     หลังจากที่มีการตรวจรับเอกสารดังกล่าวแล้วจะนำไปเก็บรักษาในความครอบครองของคณะกรรมการคัดเลือกที่ห้องนาวีคลับ ซึ่งผู้ยื่นข้อเสนอไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือล่วงรู้รายละเอียดข้อมูลของเอกสาร ของผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นได้

     ข้อเท็จจริงที่ว่ามีการนำเอกสารกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง ฯ มาที่จุดลงทะเบียนหน้าห้องรับรอง กองบัญชาการทหารเรือ ในเวลา 15.09 น. จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะใช้พิจารณาว่ามีข้อบกพร่องในการยื่นข้อเสนอที่เป็นสาระสำคัญ ดังนั้นการที่คณะกรรมการคัดเลือกฯพิจารณาใช้ดุลพินิจปฏิเสธไม่รับซองที่ 2 กล่องที่ 6 และซองที่ 3 กล่องที่ 9 ทั้งตัวจริงและสำเนา จึงน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย

     หากศาลไม่พิจารณาถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิของกลุ่มแล้ว ย่อมจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ยากแก่การเยียวยาได้ในภายหลัง เพราะกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้งฯ ย่อมไม่สามารถเข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกให้เป็นคู่สัญญากับรัฐอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงการดำเนินการก่อสร้างของโครงการนี้ต้องมีระยะเวลาพอสมควร ไม่อาจเสร็จได้ในระยะเวลาอันใกล้

     การให้กระบวนการคัดเลือกคู่สัญญาของรัฐสามารถทำได้โดยเปิดเผย โปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการเข้าร่วมแข่งขันที่เป็นธรรม หาได้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของรัฐหรือบริการสาธารณะแต่อย่างใด จึงสมควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะให้มีการทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดังกล่าวไว้ก่อน โดยให้คณะกรรมการคัดเลือกฯรับพิจารณาเอกสารดังกล่าว ของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้งฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการคัดเลือกต่อไป

     ลิง ค่าง บ่าง ชะนี ร้องจ๊ากๆ เจี๊ยกๆ กันสนั่นไปทั้งป่าดงพงไพร...สิขอรับ