คณะกรรมการวัตถุอันตรายเอกฉันท์แบน 3 สาร

22 ต.ค. 2562 | 08:29 น.

คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเห็นชอบปรับพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ชี้มีผล 1 ธันวาคมเป็นต้นไป

               ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(22 ต.ค.2562)ที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย  ครั้งที่  41-9/2562 เรื่องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ปรับวัตถุอันตรายพาราควอต  ไกลโฟเซต  และคลอร์ไพริฟอส  จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป

คณะกรรมการวัตถุอันตรายเอกฉันท์แบน 3 สาร

                ทั้งนี้  คณะกรรมการได้มีการพิจารณาข้อมูลประกอบด้วย ผลการดำเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้นำบัญชานายกรัฐมนตรีไปดำเนินการ โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่าได้มีการพิจารณาข้อมูลวิธีการและสารทางเลือกในการจัดการวัชพืช ต้นทุนของวิธีการและสารทางเลือก ข้อมูลสารทดแทนสารคลอร์ไพริฟอส ปริมาณสารที่คงเหลือ ณ ปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นว่าสามารถบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติได้

                หากยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการ และผู้แทนหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ได้นำเสนอข้อมูลความเป็นอันตราย และข้อมูลการตรวจสอบเฝ้าระวังสารตกค้างในสินค้าเกษตรในท้องตลาด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้นำข้อมูลและข้อเสนอที่ได้รับจากภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ต้องการให้ยกเลิกการใช้ และส่วนที่ไม่เห็นด้วยหากจะยกเลิกการใช้ มาพิจารณาในที่ประชุมด้วย

 

อย่างไรก็ดี  คณะกรรมการฯ ได้มีการลงมติแบบเปิดเผย เช่นเดียวกับทุกครั้งที่มีการลงมติ ผลการลงมติคือ  พาราควอต ให้ยกเลิกการใช้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จำนวน 20 คน  ยกเลิกการใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 จำนวน 1 คน  จำกัดการใช้ จำนวน 5 คน,  ไกลโฟเซต  ยกเลิกการใช้ จำนวน 19 คน จำกัดการใช้ จำนวน 7 คน และคลอร์ไพริฟอส  ยกเลิกการใช้ จำนวน 22 คน จำกัดการใช้ จำนวน 4 คน

คณะกรรมการวัตถุอันตรายเอกฉันท์แบน 3 สาร

                “มติที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอให้ปรับวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 โดยมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการยกร่างประกาศกระทรวงว่าด้วยบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น แล้วเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ ได้ขอให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาระยะเวลา ความเหมาะสมในการบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกร หรือร้านจำหน่าย เป็นต้น โดยให้รับรองมติในที่ประชุม”