คอลัมน์ผ่ามุมคิด
ด้วยศักยภาพทำเล แหล่งเศรษฐกิจเก่า ย่านเยาวราช เชื่อมต่อศูนย์เศรษฐกิจใหม่ใจกลางเมือง อย่าง สีลม ก่อเกิดแหล่งงาน สถานศึกษาชั้นนำ และแหล่งไลฟ์สไตล์ขึ้นชื่อ ประกอบกับแม็กเนตใหม่หลายแห่ง ทอดยาวถนนพระราม 4 และจุดพลุนำร่องด้วยโปรเจ็กต์ 24 ชั่วโมง มิกซ์ยูสสามย่านมิตรทาวน์ ทำให้วันนี้ทำเล “จุฬาฯ-สามย่าน” กลายเป็นทำเลทอง น่าจับตาในแง่ความต้องการที่อยู่อาศัย พบตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ดีเวลอปเปอร์ชั้นนำแห่ปักหมุดโครงการไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับรายเล็ก “เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้” กลุ่มอสังหาฯ ในเครือ พีเอ็มกรุ๊ป นำโดยนางสาวอุษณา มหากิจศิริ ประธานกรรมการบริหาร ปั้นที่ดินฟรีโฮลด์รับโอกาส
อุษณา มหากิจศิริ
สามย่านวันนี้
ปัจจุบันย่าน “จุฬาฯ - สามย่าน” เปลี่ยนไปจากช่วงก่อนหน้าอย่างมาก ในแง่โครงการที่พักอาศัย พบผู้พัฒนาฯทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ตบเท้าเข้ามาซื้อที่ดินทยอยพัฒนาโครงการออกสู่ตลาดอย่างคึกคัก เพราะการเจริญเติบโตของมูลค่าที่ดิน และความสะดวกสบายด้านคมนาคม รายล้อมด้วยแหล่งอาหารยอดฮิต ความมีเสน่ห์ของย่านเก่าใจกลางเมือง ก่อให้เกิดดีมานด์ด้านที่อยู่อาศัย ทั้งจากคนทำงานในละแวกดังกล่าว กลุ่มนิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง และนักลงทุนระยะยาว ที่มองเห็นโอกาสในการปล่อยเช่า พบปัจจุบันที่ดินกลุ่มฟรีโฮลด์ มีราคาตั้งแต่ 5 แสน - 1 ล้านบาทต่อตร.ว. เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลีสโฮลด์ (สิทธิการเช่าระยะยาว) ส่วนซัพพลายคอนโดฯ มีจำนวนมาก หลายรูปแบบ สามารถปล่อยเช่าได้ในอัตรา 1.7-2 หมื่นบาทต่อเดือน อัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าสูง 6%
“โอกาสมีมาก โซนนี้มีครบ สามย่านมิตรทาวน์ ส่งผลให้ทั้งโซนคึกคัก คนพลุกพล่านทั้งกลางวัน- กลางคืน พอมีแหล่งอุปโภค บริโภค ความต้องการที่อยู่ก็จะตามมา โดยเฉพาะกลุ่มนิสิต ที่มีดีมานด์ใหม่แต่ละปีนับหมื่นคน”
เดอะ เนสท์ จุฬาฯ-สามย่าน
โอกาสดังกล่าว บริษัทเก็บที่ดินแปลงสวย พัฒนาโครงการ แห่งที่ 5 ต่อเนื่องจากเดอะเนสท์ เพลินจิต, สุขุมวิท 22, สุขุมวิท 64 และสุขุมวิท 71 บนเนื้อที่ฟรีโฮลด์กว่า 2 ไร่ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท รวม 332 ยูนิต ในราคาเฉลี่ย 1.3 แสนบาทต่อตร.ม. คาดจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าสูง ผ่านราคาที่ตํ่ากว่าราคาตลาด เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ ผ่านจุดเด่นโครงการที่มีเอกลักษณ์ และคุ้มค่า
แผนธุรกิจ
นางสาวอุษณา ยังกล่าวว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าลงทุนพัฒนาคอนโดฯ กลุ่มโลว์ไรส์ ตามแนวรถไฟฟ้า ใจกลางเมือง ในระดับราคาจับต้องได้ 3-5 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนทำงานในเมืองหาบ้านหลังแรก กลุ่มนักลงทุน อย่างต่ำปีละ 1-2 โครงการ ล่าสุดอยู่ระหว่างมองหาที่ดินหลายทำเล เน้นย่านชุมชนที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ซึ่งจะพัฒนาผ่านแบรนด์ เดอะเนสท์ เป็นหลัก โดยอาศัยความเป็นรายเล็ก ไม่มีข้อจำกัดในแง่อัตราการเติบโต ทั้งยังมีเวลาเลือกสรรที่ดินในราคาเหมาะสม และใส่ใจรูปแบบและความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพสูงสุด ส่งต่อไปยังกลุ่มลูกค้า โดยไม่ได้มองแค่เรื่องผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรหลายราย เพื่อหาช่องทางเพิ่มศักยภาพการพัฒนาโครงการด้วยเช่นกัน
มุมมองตลาด
ทั้งนี้ ยอมรับว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาฯในปัจจุบันไม่หวือหวาเหมือนอดีต จากเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถือเป็นวัฏจักร ขึ้น-ลง ที่มีช่วงขาขึ้นแล้ว ก็ต้องพักฟักตัวก่อนขึ้นใหม่อีกครั้ง คาดปีหน้าทิศทางจะดีขึ้น ส่วนตลาดคอนโดฯ พบราคาขายยังเป็นบวก ท่ามกลางการระแวงระวังของผู้ประกอบการทุกรายในเรื่องการปล่อยกู้ให้ลูกค้า คาดไม่มีโอกาสเกิดภาวะฟองสบู่
“ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี โปรโมชันราคาจะถูกตอบรับมากกว่าช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น ฉะนั้นถือเป็นโอกาสแคบๆ สำหรับคนซื้อเก็บ ผู้พัฒนาฯเอง ก็ต้องดูความเป็นไปได้ของกลุ่มลูกค้า”
ขณะเดียวกันไม่กังวลถึงกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ที่จะเริ่มจัดเก็บในช่วงปีหน้า เพราะมองเป็นเรื่องดี ปรับรูปแบบให้การจัดเก็บมีความเหมาะสมมากขึ้น พร้อมเตรียมนำรายละเอียดดังกล่าวมาศึกษา เพื่อทำแผนพัฒนาโครงการให้ มีความสอดคล้องไม่กระทบ
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,516 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562