คำต่อคำ “กวินนาถ” เปิดใจโหวตงบฯสวนพรรค ผิดมากใช่ไหม

21 ต.ค. 2562 | 11:56 น.

หลังโดนถล่มยับจากพรรคอนาคตใหม่ นางสาวกวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคที่โหวตสวนมติพรรคในการโหวตเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 และ 1 ใน 4 ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค ในการโหวต พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เปิดใจกับกองทัพสื่อมวลชนคำต่อคำ ดังนี้

 

โดนโจมตีเยอะพอสมควรจึงไม่ออกมาพูดอะไรแต่วันนี้เห็นว่า หนักขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่พูดอะไร สิ่งที่เขากล่าวหา จะคิดว่าเป็นเรื่องจริงซะก่อน จึงต้องออกมาพูด

 

สำหรับเหตุผลที่โหวตสวนมติพรรค เรื่อง พ.ร.บ.งบฯ นั้น เราเป็น ส.ส.เขตที่มีปัญหาเชิงพื้นที่เยอะ ซึ่งเราเองก็ลงพื้นที่ตลอด เรามองว่า สิ่งที่เราเห็นด้วย เราไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง เราแค่รับหลักการเท่านั้น แต่ยังมีวาระที่สอง ที่สามอีก หากวาระที่เหลือไม่ดี เราก็ไม่โหวตให้ แต่เป็นการรับเพื่อเปิดทางให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานต่อได้สะดวก

 

“ทุกท่านทราบว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว แล้วมันผิดหรือ ที่เราทำอะไรที่ทำให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานได้สะดวก และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น นี่เป็นเจตนาที่ดี แต่เรายังไม่มีโอกาสพูดอะไรเลย ซึ่งการที่ตนเห็นชอบนั้น ในอนาคตมันก็อาจจะผ่าน ซึ่งมันไม่ใช่ว่าไม่ดีซักอย่าง ส่วนที่มันไม่ดีเราก็ต้องไปแก้ไขกัน แต่นี่มันแค่วาระแรก แต่จะตัดสินว่าขัดอุดมการณ์พรรคนั้น ต้องไปวัดกันในการโหวตครั้งที่ 3 อย่างไรก็ตาม การโหวตว่างดออกเสียงกับรับ นั้นไม่ต่างกัน แต่การที่เราไปโหวตไม่รับ ประชาชนก็ถามว่า เราไม่อยากให้พื้นที่พัฒนาใช่หรือไม่

 

ที่ทุกคนตีข่าวกันว่า รับเงิน 10 ล้าน ก็ขอให้เอาหลักฐานมาให้ดู ขอสาบานต่อหน้าไฟเลยว่า ไม่เคยไปรับเงินที่ร้านเพลิน ตามข่าวลือที่ปรากฎ กลายเป็นว่า การที่เราสวนมติครั้งนี้ก็กลายเป็นงูเห่า รัฐบาลมีเสียงมากกว่าอยู่แล้ว เขาจะมาซื้ออะไรแค่คนเดียว ก่อนหน้านี้ มีคนมาเสนอ 30 - 50 - 70 ล้านแล้ว ถ้าจะไปก็ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะมาไปอะไรแค่ 10 ล้าน

 

เรารู้ว่าการโหวตสวนไปครั้งนี้ ปัญหามันจะกลับมาเยอะ แต่ไม่คิดว่า จะหนักขนาดนี้ พอเราให้เหตุผลเขาก็ว่าเราแถอีก

 

ถามว่า ก่อนโหวตได้มีการคุยกับคนในพรรคหรือไม่นั้น  เราได้แจ้งสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และอยู่ในวิปตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมว่า จะโหวตแบบนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ถูกตีออกไปข้างนอก ซึ่งเรื่องนี้เราไม่แน่ใจว่าเขาได้ไปพูดต่อหรือเปล่า ซึ่งเราก็บอกเหตุผลไป แล้วเขาก็บอกว่า ค่อยมาคุยกัน ซึ่งเรายืนยันว่า เราจะโหวตแบนนี้

อาจารย์ปิยบุตรบอกว่า หากมีอะไรอัดอั้นตันใจก็บอกกับเขา ซึ่งก็รู้สึกผิดกับพรรค ที่เราโหวตสวน ซึ่งใน ส.ส.ด้วยกันไม่มีปัญหาอะไร แต่กระแสข้างนอกกลับแรงมาก นอกจากนี้การโหวตสวนครั้งแรกกระแสยังไม่แรงไม่เท่าไร แต่หลังจากโหวตเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.งบประมาณ ตอนนี้กลับโดนถีบออกจากกลุ่มไลน์ทุกกลุ่มเลย

 

เมื่อถามถึงแนวทางการออกเสียงต่อไปนั้น คงต้องดูว่า ทางรัฐบาลได้แก้ไขอะไรตามที่พรรคฝ่ายค้านชี้แจงไปหรือไม่ หากว่าไม่ เราก็อาจจะโหวตไม่รับ ซึ่งหากเราจะไปคุยกับแกนนำพรรค เราก็คงไปคุยกับอาจารย์ปิยบุตร สำหรับสมาชิกพรรคที่เขาไม่สบายใจ ต้องขอโทษกับท่านที่ไม่พอใจด้วย และยังยืนยันว่า จะอยู่กับพรรค ไม่คิดลาออก แม้จะมีกระแสให้ลาออกจากการเป็น ส.ส.ก็ตามที

 

ส่วนผอ.ศูนย์ชลบุรี ที่ออกมาพูดนั้น เขายุติบทบาทหน้าที่ไปแล้วซึ่งจากนี้เราก็ทำงานปกติ แต่ไม่รู้ว่าระหว่างคนที่ทำงานด้วยจะมีอาการน้อยใจหรือไม่ เราไม่สามารถทำทุกเรื่องให้ถูกใจคนทุกคนได้ แต่คนในพื้นที่เข้าใจว่า ส.ส.มาทำเพื่อประชาชน และก็รู้ว่า การที่เราทำแบบนี้โดนด่าแน่นอน

 

ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นงูเห่าแน่นอน ยืนยันได้จากความสุจริตของเรา อยู่ที่ความเชื่อมั่นของประชาชนว่า เชื่อเรามากน้อยแค่ไหน พอเห็นว่า เราสวนปุ๊บเขาก็ใส่เลยว่า งูเห่าสีส้ม ถามหน่อยหากซื้อคนเดียวจะซื้อทำไม แล้วไปเอารอบ 70 ล้าน ไม่ดีกว่าหรือ

 

ขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะกดดันอย่างไรก็ไม่ลาออกจาก ส.ส.และพรรคอนาคตใหม่ แต่ถ้าเป็นมติพรรค ก็ยอมรับ ช่วงที่สวนมติพรรคไป ก็มีหลายพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมาให้กำลังใจ และบอกว่าให้ไปกับเขาได้ถ้าไม่มีทางไป

 

เมื่อถามว่า การปิดช่องทางการติดต่อส่วนตัวไป มีกระแสตีกลับอย่างไรบ้างนั้น บอกว่า พอปิดช่องทางการติดต่อกับประชาชน ก็โดนทักไปหาคุณแม่ หรือไปยังครอบครัวคนอื่นๆ แต่ไม่ได้โดนคุกคามเรื่องความปลอดภัย มีเพียงแต่คำขู่ของคนในโซเชียล และคนในพื้นที่บางกลุ่มเท่านั้น

 

ในส่วนของเรื่อง พ.ร.ก.ฯ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากก้าวล่วงหรือทำอะไรขัดกับสถาบันฯ แต่ไม่ได้หมายความแนวทางพรรคอนาคตใหม่เป็นแบบนั้น แต่เรื่องนี้สามารถคิดได้หลายแบบแต่เพื่อความสบายใจมากกว่า และยอมรับว่า เป็นเรื่องของความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ด้วยส่วนหนึ่ง

 

ต้องมองว่า เราผิดส่วนไหน เราโหวตเพื่อประชาชนแล้วผิดใช่หรือไม่ การที่เราโหวตรับทั้งที่เป็นแค่วาระแรก เราผิดมากหรือ เราไปฆ่าใครตาย บางทีมันเจ็บปวด ทั้งที่เลือกที่จะฟังกันได้แต่กลับไม่ฟัง แล้วฟันว่าเราคืองูเห่า คือคนทรยศประชาชน อันนี้มันไม่ถูก

 

ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นทั้งงูเห่าและกาฝาก ส่วนที่มีคนบอกว่า ไปคุยกับพรรคอื่น ต้องถามว่า การเป็นเพื่อนกันในสภาฯ มันผิดหรือไม่ เราสามารถคุยได้ทุกคน ไม่จำเป็นต้องโกรธกัน และขณะนี้ยังไม่ได้นัดหมายวันพูดคุยกับนายปิยบุตร ส่วนเหตุผลที่เลือกคุยกับคนในวิปเพราะคนในวิปสนิทกับนายปิยบุตรอยู่แล้วโดยหลังจากโหวตเห็นด้วยกับ พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังฯ นายปิยบุตรก็ไม่ได้มาพูดจาเพื่อกำชับเรื่องการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯแต่อย่างใด

ส่วนกรณีความเห็นต่างเรื่องการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรรมการสรรหาได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวได้เจรจาให้หลายๆ ทีมใน จ.ชลบุรีมารวมกัน ไม่ต้องดีเบตสร้างความแตกแยก อาจจะเสียแต้มโดยใช่เหตุ เนื่องจากจากประสบการณ์ที่เป็น ส.ส.จากระบบไพรมารี่ หลังจากที่ชนะ ทำให้คนที่แพ้โจมตีเราเรื่องการทำงานตลอดเวลา จึงไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ในการส่งผู้สมัครนายกฯ อบจ.อีก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้โหวตสวนมติพรรค เพราะแยกแยะได้

 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสว่า กรรมการบริหารพรรคให้ความสำคัญกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากกว่า จนทำให้ ส.ส.เขตบางส่วนเกิดความน้อยใจนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคน บางทีเราก็น้อยใจ มันเป็นเรื่องของการให้ความสำคัญ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลหลักเพราะเราแยกแยะระหว่างการทำงานเพื่อประชาชนกับปัญหาภายในพรรค

 

เมื่อถามว่า เหตุใดเลือกเข้าไปคุยกับนายปิยบุตรแทนที่จะเป็นนายธนาธรเนื่องจากเป็นการดูแลคนละส่วนกัน นายธนาธรก็ทำงานในส่วนของเขา ส่วนนายปิยบุตรจะดูแลบุคลากรภายในพรรค ถามว่า เรื่องใดที่ทำให้รู้สึกน้อยใจที่สุด อย่าให้พูดเลย..