"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

21 ต.ค. 2562 | 11:45 น.

โบ้ย! พรุ่งนี้คณะกรรมการวัตถุอันตรายชี้ชะตา 3 สารพิษ “เฉลิมชัย” พร้อมรับมือ เผยกรมวิชาการเกษตร ส่งการบ้านให้แล้ว คาดจะเปิดซองหลังรู้ผลมติว่า แบนหรือไม่ เตรียมแก้ปัญหาทั้ง 2 ทาง  ด้านเกษตรกรเดินทัพกว่าพันราย ฟังการตัดสิน 22 ตุลานี้ ย้ำใครแบนสาปส่งพรรคการเมือง เตรียมดอกไม้จันทน์ไป “เผาผี”

 

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

วันที่ 21 ตุลาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยหลังการประชุมกับตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ผมมารับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่ายว่าทำไมถึงคัดค้าน แล้วมาขออธิบายข้อเท็จจริง ผมก็ให้โอกาสแล้วก็นำข้อมูลของเกษตรกรส่งไปที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันพรุ่งนี้ ส่วนของผมได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว วันนี้หน้าที่ของผมต้องรับฟังทุกฝ่าย

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

แล้วก็รอแก้ปัญหาว่าพรุ่งนี้ (วันที่ 21 ต.ค.62) ผลจะออกมาอย่างไรจะต้องแก้ ต้องรอให้มีมติออกมาก่อน เพราะไม่ว่าทางไหนก็มีผลกระทบทั้งสิ้น ต้องเอาความจริงมาคุยกัน หน้าที่ของผมก็คือการแก้ปัญหาไม่ใช่หลบหนีปัญหา ส่วนปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ทางกรมวิชาการเกษตรส่งข้อมูลแผนการรับมือให้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดซองอ่านหลังทราบการตัดสินว่าแบนหรือไม่แบน

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

“ทั้งสองกลุ่มเป็นคนไทย นโยบายของผมพูดตั้งแต่ต้นและชัดเจนว่าผู้บริโภคต้องปลอดภัย  เกษตรกรต้องปลอดภัย ยังยึดหลักตรงนี้อยู่”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีนายอนุทิน วีรกุล นำหนังสือของนายเฉลิมชัยฯ ไปโพสต์หน้าเฟสบุคส์ รู้สึกอย่างไร นายเฉลิมชัย กล่าวว่า รู้สึกเฉยๆ ส่วนกรณีหากพรรคประชาธิปัตย์ไปสนับสนุนการแบน 3 สาร เกษตรกรจะแบนพรรคประชาธิปัตย์ เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย  ก็กล่าวว่า รอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

สอดคล้องกับนายสุกรรณ์ สังข์วรรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เผยว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของเกษตรกร หลักฐานข้อเท็จจริงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับปากจัดการปัญหาด้านสารเคมี ยึดเกษตรกรเป็นหลัก และรับผิดชอบทุกผลการตัดสินใจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

อย่างไรก็ดีในพืชเศรษฐกิจหลักมีเพียง 6 รายการ ได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้สารกำจัดวัชพืช พาราควอต และไกลโฟเซต ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่าสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรสูงถึงปีละ 4.5 แสนล้านบาท นำรายได้เข้าสู่ประเทศรวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท หากแบนสารดังกล่าว สมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาล ได้ประมาณการณ์ผลกระทบต่อภาคเกษตรอุตสาหกรรม ไม่เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตรวมจะลดลงร้อยละ 82 รายได้เกษตรกรจะหายไปเกินครึ่ง หรือ ร้อยละ 56 คิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านบาท รวมทั้ง ปริมาณการส่งออกสินค้ารวมจะหายไปร้อยละ 80 คิดเป็นมูลค่า 5.7 แสนล้านบาท รวมแล้วภาครัฐจะต้องสูญเสียรายได้กว่า 8.2 แสนล้านบาท

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

การบริหารเกษตรกรรมของประเทศด้วยหลักมโนศาสตร์ กระแสสังคมและความรู้สึก ไม่ควรเกิดขึ้นในทุกรัฐบาล การพัฒนาประเทศต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์บนพื้นฐานความเป็นจริงและศักยภาพของประเทศ หมดยุคสมัยการบริหารงานด้วยวิธีสนตะพาย นายทุนจูงจมูกผู้บริหารประเทศ นักการเมืองสมรู้ร่วมคิด นักวิชาการหาเงินข้าราชการอ่อนแอไร้ความรับผิดชอบ NGO ผลาญภาษีสร้างเรื่องเท็จ แถมเอาภาษีประชาชนมาปั่นกระแสลวงโลก เกษตรกรเพาะปลูกมานานกว่า 50 ปี รู้ดีว่าระบบเกษตรปลอดภัยมาตรฐาน GAP ใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยเป็นทางออกที่ดีที่สุดสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์กระททรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งส่งเสริมเกษตรเคมีและเกษตรอินทรีย์ ต่างต้องดำเนินไปควบคู่กัน โดยปัจจุบันเกษตรเคมีมีพื้นที่กว่า 137 ล้านไร่ แต่เกษตรอินทรีย์มีพื้นที่ 3 แสนไร่เท่านั้น  

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง กล่าวเสริมว่า หลักฐานต่าง ๆ คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการควบคุมวัตถุอันตรายฯ ได้ตรวจสอบและพิจารณาหมดแล้วว่า พาราควอต ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมตามที่กลุ่ม NGO และนักวิชาการกล่าวอ้าง รวมทั้ง เกษตรกรได้ไปตรวจสอบเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ที่ NGO เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนมาโดยตลอดจนปัจจุบัน กลับพบข้อสงสัยหลายประการ อาทิ การเก็บตัวอย่างงานวิจัยพาราควอตจากแม่สู่ลูก ผลการตรวจสอบการตกค้างสารเคมีที่เผยแพร่ โดยหลักฐานสำคัญเหล่านี้ จะนำไปยื่นฟ้องศาลปกครองในลำดับต่อไป

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

ล่าสุด สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ หรือ US EPA ได้เปิดเผยผลการประเมินล่าสุด ปีพ.ศ. 2562 เกี่ยวกับโรคพาร์กินสันกับพาราควอตแล้วว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน พาราควอตไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคพาร์กินสันแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนนักวิจัยของไทยพยายามจะให้เกี่ยวข้องให้ได้ ไม่แน่ใจว่า “รับอะไรมา” ผลวิจัยของไทยนั้นมีข้อสงสัยหลายประการโดยเฉพาะ เมื่อเกษตรกรตรวจสอบกลับไปยังโรงพยาบาลที่กล่าวอ้างว่าเก็บตัวอย่างหญิงมีครรภ์ ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่า “ไม่เคยมีข้อมูลการดำเนินงานดังกล่าว” แล้วผลวิจัยมาจากไหน?

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

นอกจากนี้ สารชีวภัณฑ์ที่รัฐเคยส่งเสริมการใช้ ในความเป็นจริงกรมวิชาการเกษตรเองก็เคยนำไปตรวจสอบกลับพบว่า เป็นสารเคมีเกษตรผสมแล้วนำมาขายบอกว่าเป็นอินทรีย์ จึงเป็นข้อยืนยันแน่ชัดได้ว่ายังไม่มีสารใดทดแทนได้ ส่วนแนวคิดการแบนสารชนิดหนึ่งแล้วเอาสารเคมีอีกชนิดหนึ่งมาให้ใช้นั้นเป็น “ตรรกะที่ป่วย” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลูโฟซิเนต ที่แนะนำให้ทดแทนนั้น อันตรายกว่าสารเดิม เพิ่มเติมคือแพงกว่า 5 เท่า ประสิทธิภาพต่ำกว่า

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

วันพรุ่งนี้ 22 ตุลาคม จะเป็นวันที่เกษตรกรทุกคนจะรอฟังคำตัดสินและให้กำลังใจคณะกรรมการวัตถุอันตราย ตัดสินอย่างเที่ยงธรรม ไม่ต้องกลัวอิทธิพลพรรคการเมือง เพราะเกษตรกรกว่า 1,000 รายจะยืนหยัดข้างเคียงท่าน และประกาศแบนพรรคการเมือง พร้อมกับนำดอกไม้จันทน์ไป “เผาผี” และเลือกตั้งสมัยหน้า จะไม่ให้มีโอกาสกลับมามีอำนาจเป็น ส.ส. อีก เกษตรกรจะแบนอย่างถึงที่สุด

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

“สิ่งที่ผมผิดหวังที่สุดคือ จิตสำนึกของข้าราชการประจำ บรรดานักการเมือง มาแล้วก็ไป แต่พวกท่านคือคนที่ยังอยู่ จะต้องทำหน้าที่โดยสุจริต และมีศักดิ์ศรี สำหรับเรื่อง 3 สาร ทางออกที่เหมาะสมที่สุดคือ มาตรการจำกัดการใช้ฯ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศออกมาใช้ จะต้อง ไม่แบน สารดังกล่าว เพราะแรงงานไม่สามารถหาได้ หากหาได้คิดเฉพาะพืชเศรษฐกิจหลัก 60 ล้านไร่ รัฐต้องจ่ายค่าแรงชดเชยให้เกษตรกร 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

หากใช้เครื่องจักร ปัจจุบันเกษตรกรเป็นหนี้สินอยู่ครอบครัวละ135,220 บาทต่อปี รัฐต้องยกเลิกหนี้สินให้เกษตรกรทั้งหมดที่อยู่ในระบบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อสร้างหนี้ใหม่กู้เงินมาซื้อเครื่องจักร โดยเกษตรเรียกร้องให้รัฐออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างของเครื่องจักรทั้งหมดให้เกษตรกร” นายสุกรรณ์ กล่าวสรุป

"เฉลิมชัย" พร้อมมาตรการรับมือ "แบน"หรือไม่ "แบน" 3 สารพิษ

ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากจะแบน 3 สารตัวนี้ เสนอแนะให้แบนให้ทุกชนิด เพราะมีอันตรายทั้งหมด พร้อมกับให้ไปดำเนินคดีกับพรรคและนักการเมือง และข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติให้นำสารพิษเข้าประเทศไทยเมื่อ 50 ปีให้มาลงโทษดำเนินคดีให้เป็นคดีตัวอย่างด้วย