ผลโหวตพ.ร.ก. เปิดรัง “งูเห่า”  ในพรรคอนาคตใหม่ 

20 ต.ค. 2562 | 08:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3515 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 20-23 ต.ค.2562  โดย....ว.เชิงดอย


ผลโหวตพ.ร.ก. 
เปิดรัง“งูเห่า” 
ในพรรคอนาคตใหม่ 



          .....น่าสนใจทีเดียวต่อกรณีที่ “ส.ส.อนาคตใหม่” โหวตสวนมติพรรคที่ไม่ให้รับพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ ซึ่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เสียงส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 366 ต่อ 70 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และมีส.ส.ที่ไม่เห็นชอบส่วนใหญ่มาจากพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด ขณะที่โหวตรับ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว 3 คน ประกอบด้วย นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี งดออกเสียง 2 เสียงคือพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์และนางสาวศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ก่อนที่พล.ต.ต.สุรินทร์ จะออกมาแก้ข่าวว่า กดลงมติเห็นด้วยกับพ.ร.ก.ดังกล่าว แต่เครื่องลงคะแนนขัดข้องไปแสดงผลว่างดออกเสียง จึงทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เพื่อแจ้งว่ากดลงมติเห็นด้วยกับพ.ร.ก.ฉบับนี้ แต่เครื่องลงคะแนนเกิดปัญหาขัดข้อง

          .....กระนั้นก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารของสำนักการประชุมสภา ว่าด้วยการออกเสียง จากสมาชิกที่มาร่วมประชุมทั้งหมด 446 คนระบุว่ามีผู้อนุมัติ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว 376 คน ไม่เห็นด้วย 70 คน หลังลงมติพบว่าพบ “9 งูเห่า” ของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ปฏิบัติตามมติพรรคที่ไม่ให้รับพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ มีส.ส.ทั้งหมด 81 คน ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ 2 คนหรือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่อันเนื่องมาจากคดีถือครองหุ้นสื่อ และส.ส.นครปฐม ที่ลาออก ทำให้เหลือส.ส.ในสภา 79 คน ลงมติค้าน 70 คน เท่ากับว่ามีส.ส.หายไป 9 เสียงที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค
    

          .....ถือเป็นปัญหาภายในของพรรคอนาคตใหม่ที่เกิดการ “แหกคอก” และสะท้อนให้เห็นถึงการไม่สามารถควบคุมลูกพรรคให้ปฏิบัติตามมติพรรคได้ทุกคน ซึ่งต้องรอดูว่าพรรคอนาคตใหม่จะมีมติใดๆ ดำเนินการกับลูกพรรคที่ฝ่าฝืนมติพรรคหรือไม่ แต่ในมุมของฝ่าย “รัฐบาลลุงตู่” เห็นแล้ว เห็นช่องทางที่จะดึง “งูเห่า” ไว้เป็น “พันธมิตร” รับมือกับการ “โหวต” เรื่องสำคัญๆ ที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของรัฐบาล งานนี้  “มือประสานสิบทิศ” อมยิ้มได้...

          .....สถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” พัดเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผลกระทบต่อเที่ยวบินและผู้คนที่ได้มีการวางแผนการเดินทาง หรือแม้แต่ปัญหาทางการเมือง ที่มีการประท้วงในฮ่องกงก็ตาม สภาวะแวดล้อมเหล่านี้มีผลต่อธุรกิจการบินที่มีความอ่อนไหว นอกเหนือจากการแข่งขันในธุรกิจแอร์ไลน์ โดยเฉพาะฝ่ายขายและการตลาดที่ต้องหารายได้จะต้องทำงานหนัก และที่นักหนาสาหัสกว่านั้นคือความไม่พอใจที่ก่ออยู่ในใจผู้โดยสารหรือลูกค้าของสายการบินนั้นๆ สำหรับ การบินไทย สายการบินแห่งชาติ ที่มีภาพลักษณ์เป็นที่เชื่อถือของลูกค้าในระดับมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะด้านความปลอดภัยทางการบินของนักบินและการบริการบนเครื่องบินของเหล่าแอร์สจ๊วร์ต ในแต่ละวันมีเที่ยวบินของทีจี บินเข้าญี่ปุ่นมากมาย ตามแผนการตลาดของฝ่ายขายและลูกค้าญี่ปุ่น ก็เลือกที่จะเดินทางกับเจ้าจำปี สังเกตได้จากราคาและโปรโมชันของตั๋วที่ออกมาโดนใจตลอดเวลาผ่านทางเอเยนซีต่างๆ และสื่อออนไลน์ของฝ่ายการพาณิชย์

          .....การปรับเปลี่ยนเลื่อนเวลาทำการบินช่วงพายุเข้า ทางท่าอากาศยานในญี่ปุ่นก็ประกาศและเปลี่ยนแปลงเวลาตลอด ไม่ต่างกับการเล่นเก้าอี้ดนตรี ซึ่ง “การบินไทย” ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องการขายตั๋ว ก็ได้แสดงความสามารถเต็มที่เพื่อสร้างความพึงพอใจ จนลูกค้าพากันชื่นชมโพสต์ให้เครดิตทีจี ร่อนไปทั่วในโลกโซเชียล แม้แต่ ถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ที่กำกับดูแลการบินไทยโดยตรง ยังแอบไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจที่ศูนย์ปฏิบัติการสุวรรณภูมิ (TOCC) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าการบินไทยทุกคนจะได้รับการดูแลและบริการที่ดี ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นต่างก็ปลื้มใจรมต. หน่วยงานหลักของ วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รอง ก.ก.ผอญ.สายการพาณิชย์, กัปตัน สรเดชนามเรืองศรี รอง ก.ก.ผอญ.สายปฏิบัติการ และสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ผอ.ใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน ต่างก็ทุ่มเทกันเต็มที่...