ภาษีใหม่ดันบิ๊กไบค์แพงขึ้น "ยามาฮ่า"ยันราคาเดิม
ตลาดบิ๊กไบค์ 8 เดือน ร่วง 4% ปีหน้ายังหนักเพราะโดนภาษีสรรพสามิตที่คิดตามการปล่อยไอเสีย รุ่นใหญ่เครื่องยนต์ 1000 ซีซี โดนเต็มๆจาก 8% เป็น 18% “ยามาฮ่า” ยันขายราคาเดิม เล็งเปิดรถใหม่ 2-3 รุ่น ดัน “ไนเคน” สปอร์ต 3 ล้อสายพันธุ์ดุ ส่วนรุ่นใหญ่ YZF-R1 โมเดลปี 2020 ยอดจองพุ่ง พร้อมส่งมอบทันที
แม้รถจักรยานยนต์จากญี่ปุ่นยึดตลาดไทยแบบเบ็ดเสร็จมายาวนาน ด้วยยอดขาย 1.7-1.9 ล้านคันต่อปี ซึ่งส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% เป็นของฮอนด้าและยามาฮ่า รวมกัน แต่ถ้าเจาะลงไปในกลุ่มบิ๊กไบค์ 2 ค่ายนี้เจอกับคู่แข่งเพียบทั้ง แบรนด์ยุโรป และอเมริกา ที่ต่างเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานประกอบในเมืองไทยทั้งไทรอัมพ์ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน บีเอ็มดับเบิลยู ดูคาติ รวมถึงรอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์อังกฤษเจ้าของอินเดีย ที่ได้การตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ
ถือเป็นตลาดที่มีความหลากหลายของตัวโปรดักต์ แข่งขันกันสนุก แต่ช่วง 2-3 ปีหลังยอดขายไม่ได้พุ่งสูงเหมือนช่วงแรกๆ ปิดปี 2561 ขายรวมกว่า 31,000 คัน โตเพียง 5% ส่วนปีนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจซบเซา ตลาดน่าจะทรงตัวหรือมีโอกาสตก 4-5%
นอกจากสภาพเศรษฐกิจซึม กำลังซื้อตกตํ่า เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยน เช่นเดียวกันการแข่งขันที่สูงขึ้น ตลาดบิ๊กไบค์ในปี 2563 ยังต้องเจอความท้าทายจากการปรับวิธีคิดภาษีสรรพสามิตใหม่ตามการปล่อยไอเสีย ซึ่งรถบิ๊กไบค์ที่ปล่อยไอเสียเกิน 130 กรัม/กม. จะโดนภาษีเพิ่มเป็น 18% จากเดิม 8% (เครื่องยนต์ 500-1000 ซีซี)
ปัจจุบันรถจักรยานยนต์เก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ อย่างรถไม่เกิน 150 ซีซี เสียภาษีสรรพสามิต 2.5% และ150 -500 ซีซี 4% กลุ่ม 500-1000 ซีซี 8% และเกิน 1000 ซีซี โดน 17%
ส่วนพิกัดภาษีใหม่ สำหรับรถจักรยานยนต์ปล่อยไอเสียตํ่ากว่า 50 กรัม/กม. เสีย 3% และ 51-90 กรัม/กม. 5% ส่วน 91-130 กรัม/กม. โดน 9% หากมากกว่า 130 กรัม/กม. เสียก้าวกระโดดเป็น 18% ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้แจ้งเงื่อนไขให้บริษัทผู้ผลิตเตรียมปรับตัวแล้ว ก่อนจะออกประกาศอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีนี้
“ภาษีสรรพสามิตใหม่กระทบกลุ่มบิ๊กไบค์เต็มๆปีหน้า เราพยายามยืนยันราคาขายเดิมเอาไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้ตลาดตกใจแต่ต่อไปมีโอกาส ค่อยๆขยับราคาขึ้นเช่นกัน” นายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจรถบิ๊กไบค์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าว
ตลาดบิ๊กไบค์ช่วง 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.62)ตก 4% ส่วนยามาฮ่าลดไป 3% ซึ่งปลายปีนี้หากนำเข้ารถมาได้ตามแผนอีก 2-3 รุ่น เชื่อว่าจะประคองสถานการณ์ได้ หรือผลประกอบการไม่ตกมากไปกว่าอัตราตลาดที่คาดว่าจะร่วง 5%
นายวีรพงษ์ กล่าวว่า ปีที่แล้วยามาฮ่า บิ๊กไบค์ขายรวม 2,600 คัน มี R Series เป็นตัวทำยอดขายหลักทั้ง YZF-R1 และ YZF-R6 ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว YZF-R1 ใหม่ โมเดลปี 2020 ราคา 8.49 แสนบาท ที่เปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างและปรับปรุงขุมพลังให้ดีขึ้น
“เรื่องมาตรฐานไอเสียใหม่ ทำให้เราต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เช่น R1 รุ่นเดิมเราขายหมดสต๊อกไปตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว ส่วนรุ่นใหม่ปี 2020 ต้องใช้เวลาในการพัฒนาให้ตรงกับมาตรฐานไอเสียในไทยที่ต้นปี 2563 จะเริ่มใช้ข้อกำหนดยูโร 4 กว่ารถจะพร้อมเปิดตัวต้องรอถึงไตรมาส 3 และพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป”
ตลาดบิ๊กไบค์ช่วงปลายปียังแข่งขันกันด้วยโปรโมชันอย่างดุเดือด แต่ละค่ายต้องออกแคมเปญส่งเสริมการขายมาดึงกำลังซื้อที่ลดลง ส่วนยามาฮ่ามีเล่นโปรโมชันบ้าง แต่หลักๆจะเน้นทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้ามากกว่า เช่น กลุ่มบิ๊กไบค์พยายามเปิดประสบการณ์ขับขี่จริง ทั้งแบบโรดทริปท่องเที่ยวเป็นคาราวาน รวมถึงจัดแข่งขันในเซอร์กิตที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยรองรับ
ล่าสุดจัด Yamaha Championship 2019 สนามสุดท้ายของปีที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นปีที่ 2 สำหรับกิจกรรมนี้ โดยมีรถจักรยานยนต์เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 249 คัน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งในเมืองไทย ส่วนปีหน้ายังจัดต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้
“เพื่อรองรับการบริการแก่ลูกค้า และยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เรามีแผนขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการบิ๊กไบค์ Yamaha Riders Club โดยปลายปีนี้เตรียมเปิดที่อุดรธานี รวมเป็น 15 แห่ง และปีหน้าจะเพิ่มอีก 2 แห่งในกรุงเทพฯ” นายวีรพงษ์ กล่าวสรุป
สำหรับบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ที่ยามาฮ่า เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้ 2-3 รุ่น หนึ่งในนั้นคือ “ไนเคน” สปอร์ตไบค์ 3 ล้อ เครื่องยนต์ 3 สูบ 847 ซีซี นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น คาดราคาขาย 7-8 แสนบาท
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20-23 ตุลาคม 2562
