OSPเทรดครบ 1 ปี ราคานิวไฮพุ่ง 61%     

20 ต.ค. 2562 | 03:38 น.

OSP เปิดขายไอพีโอครบ 1 ปี ราคาหุ้นพุ่ง 61% ดันมาร์เก็ตแคปเพิ่ม 45,806.94 ล้านบาท โบรกฯ คาดรายได้-กำไรไตรมาส 3 ปีนี้ฟื้นตัวดี ชี้ภาษีนํ้าตาลไม่กระทบ หลังปรับสูตรและขึ้นราคาก่อนแล้ว

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP) ซึ่งเริ่มซื้อขายเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 จนถึงวันนี้ผ่านมา 1 ปี ราคายังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาปิดวันที่ 17 ตุลาคม 2562 อยู่ที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 15.25 บาท หรือ 61% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่ 25.00 บาท ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 120,900.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45,806.94 ล้านบาท หรือ60.99% จากมาร์เก็ตแคป ราคาไอพีโออยู่ที่ 75,094 ล้านบาท

นายภาณุวัฒน์ นิเวศน์มรินทร์ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิของ OSP ในไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น 16.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 มาจากการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษในการกันสำรองผลประโยชน์พนักงาน ทั้งนี้คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 ล้านบาท จากการครองส่วนแบ่งตลาดของ M-150 ที่อยู่ที่ประมาณ 38% ของมูลค่าตลาดรวม และยอดขาย C-Vitt ที่เพิ่มขึ้น

 

OSPเทรดครบ 1 ปี  ราคานิวไฮพุ่ง 61%     

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือของ OSP จะกลับมาอยู่ที่ 62 ล้านบาทในไตรมาส 3 หลังจากไตรมาส 2 ลดลงเหลือ 28 ล้านบาท เนื่องจากมีการหยุดการผลิต C-Vitt เป็นเวลาหนึ่งเดือนเพื่อปรับปรุงการผลิต แต่หลังจากดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่ากำลังการผลิต C-Vitt จะเพิ่มขึ้นอีก 30% และจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตในไตรมาส 4 ทั้งนี้ OSP ได้ปรับขึ้นราคาขาย C-Vitt เป็น 16.00 บาท จากเดิม 15.00 บาท เพื่อรับการปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มประเภท functional drink 10% ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562

ขณะที่ ไตรมาส 4 ปี 2562 มีแรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลของการบริโภคในประเทศ และยอดขาย OEM ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเปิดโรงงานแก้วแห่งใหม่ (SGA-2) ในเดือนสิงหาคม 2562 นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากการเปิดโรงงานแป้งแห่งใหม่ และการเปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังในเวียดนาม ส่วนโรงงานเครื่องดื่มแห่งใหม่ในเมียนมา คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 นี้ แต่ blended GPM คาดจะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากเข้าสู่เฟสที่ 2 ของการปรับขึ้นภาษีนํ้าตาล ซึ่งมองว่าผลกระทบน่าจะจำกัด เพราะมีการดำเนินโครงการบริหารจัดการต้นทุนอยู่

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะมีการปรับเพิ่มภาษีนํ้าตาลรอบใหม่ ซึ่ง OSP ใช้วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนส่วนอื่นเพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงมีการออกสินค้าใหม่กลุ่ม M-150 โดยเพิ่มสรรพคุณด้านสุขภาพ เพิ่มส่วนผสมด้านสมุนไพรในราคาเดิมที่ 10 บาท แต่ขนาดเล็กกว่าเหลือ 100ซีซี ด้วยส่วนผสมจากนํ้าตาลลดลง หนุนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นแทนที่จะได้รับผลกระทบ

 

ขณะที่การขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม Functional drinks บริษัทใช้วิธีการปรับขึ้นราคาเพื่อลดผลกระทบ ทำให้ผลกระทบด้านภาษีไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของ OSP นอกจากนี้จะเริ่มเปิดทดสอบการผลิตโรงงานแห่งใหม่ในเมียนมาคาดมีค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงแรกมากระทบอัตรากำไรขั้นต้น และ SG&A บ้างในไตรมาส 4 แต่คาดจะฟื้นได้เร็วในไตรมาส 1 ปี 2563 เพราะส่วนใหญ่เป็นการสร้างโรงงานใหม่ทดแทนของเดิมที่จ้างคนอื่นผลิต ทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้เร็ว

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20-23 ตุลาคม 2562

OSPเทรดครบ 1 ปี  ราคานิวไฮพุ่ง 61%